วัดม่วงชุม จังหวัดสิงห์บุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เป็นอีกที่ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวกันช่วงสุดสัปดาห์นี้ครับ นอกจากสิงห์บุรีนั้นจะมีที่เที่ยวดังๆ ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้ว เราจึงอยากจะให้ลองมาที่ วัดสวยเมืองไทย อย่าง วัด ม่วงชุม เพื่อเข้าไปกราบองค์พระหลวงพ่อดำ อีกทั้งยังขับรถไม่ไกล มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลยว่า วัดดังสิงห์บุรี แห่งนี้จะสวยงามและน่าสนใจตรงไหน
วัดม่วงชุม จังหวัดสิงห์บุรี
ประวัติและความเป็นมาของวัด
วัดม่วงชุม มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกหนึ่งในวัดเก่าแก่ของประเทศไทยที่มีอายุมากกว่า 400 ปีมาแล้ว โดยคาดว่าน่าจะสร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเมื่อก่อนนั้นจะชื่อว่า วัดกระดังงา ได้กลายเป็นวัดร้างตั้งแต่ในสมัยที่มีสงครามกับพม่าและเสียกรุงครั้งที่ 2 และได้มีการขุดพบเศียรพระหินทรายเป็นจำนวนมากนั่นเอง
และหนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อดำ ที่ได้ตั้งประดิษฐานอยู่ด้านหลังวัดแห่งนี้อีกด้วย ต่อมาในช่วงประมาณปี พ.ศ.2424 นายโคก กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยที่ตั้งวัดในปัจจุบันนั้นก็อยู่ใกล้กับวัดเดิม และตั้งชื่อวัดว่า ม่วงชุม โดยที่มาของชื่อวัดนั้นมาจากการที่ชาวบ้านบางระจัน ได้มาร่วมชุมนุมกันที่ใต้ต้นมะม่วง ณ ที่แห่งนี้ เลยทำให้มีความหมายว่า ชุมนุมใต้ต้นมะม่วง นั่นเองครับ
ความน่าสนใจ
ในปัจจุบัน วัดมวงชุม แห่งนี้ เป็นสำนักปัฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งใน จังหวัดสิงห์บุรี จึงทำให้ประชาชนนั้นต่างพากันเดินทางเข้ามาทำบุญ และร่วมปฏิบัติธรรมในวันสำคัญต่าง ๆ รวมไปจนถึงไฮไลท์ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กัน ไม่ว่าจะเป็น พระรูปหลวงพ่อขาว หลวงพ่อดำ พระสิงห์ใหญ่พระพุทธสิหิงมิ่งมงคล และ พระมหาเจดีย์บางระจัน เพื่อช่วยเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัวกันอีกด้วย
- ที่อยู่ : ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
- พิกัด : https://goo.gl/maps/Xsk8gkkZcZoA4n5L8
- เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.
แนะนำ 3 วัดดังสิงห์บุรี ที่ห้ามพลาด
1. วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง
เป็นวัดสำคัญอันเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยวิธีการสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก และยังประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24k มีขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก และมีความสูง 21 วา 1 คืบ กับอีก 3 นิ้ว สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล นอกจากนี้ภายในวัดนั้นยังมีพระพิฆเนศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้ได้เข้าไปกราบไหว้อีกด้วยครับ
- ที่ตั้ง : หมู่ 3 ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
2. วัดอัมพวัน
วัดอัมพวัน หรือ วัดหลวงพ่อจรัญ พระนักเทศน์และพระวิปัสสนาจารย์ชื่อดัง ที่ท่านเคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ วัดแห่งนี้มีการสันนิษฐานว่าถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการพัฒนาเรื่อยมา โดยในปัจจุบันเป็นวัดที่ได้รับความศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชนอย่างมาก ทั้งนี้ภายในวัดยังมีสถานที่สำคัญ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย อย่างเช่น พระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์ เป็นต้น
- ที่ตั้ง : ตำบลพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
3. วัดม่วง
เรียกว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของอำเภออินทร์บุรีเลยก็ว่าได้ครับ วัดแห่งนี้มีการสร้างมาตั้งแต่สมัยช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีสิ่งที่สำคัญมากมาย ที่สำคัญคือ วิหารหลังเก่า ที่มีการออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า บริเวณหน้าบันนั้นงดงามไปด้วยการประดับประดาของเครื่องถ้วยชามหลากสีสัน ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ ลายเส้นสวยวิจิตรบรรจง พร้อมด้วยพระประทานปางมารวิชัยสง่างาม นอกจากนี้ก็ยังมีพระปรางค์เก่าแก่แบบย่อมุมไม้สิบสองตั้งอยู่ด้วย
- ที่ตั้ง : ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับทริปเที่ยวไหว้พระ วัดม่วงชุม ที่เราได้นำมาฝาก เรียกว่าเป็นวัดสวยและมีมนต์เสน่ห์อีกแห่งของเมืองไทย ที่น่าไปมากๆ เลยก็ว่าได้ครับ หากมีโอกาสเดินทางผ่านไปยังสิงห์บุรี อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันดูครับ และอย่าลืมเอา 3 วัดดังเมืองสิงห์บุรี ที่วันนี้เราได้นำมาฝากลงไปในแพลนด้วยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ