เปิดพิกัด ที่เที่ยวอ่างทอง พระตำหนักคำหยาด อีกหนึ่งร่องรอยประวัติศาสตร์ไทยที่น่าศึกษา

วันนี้เราจะพาไปเที่ยวอ่างทอง เพื่อไปดูโบราณสถาน พระตำหนักคำหยาด ซึ่งเป็นที่ปลีกวิเวกของ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร กษัตริย์พระองค์ที่ 32 ของกรุงศรีอยุธยา หลังจากที่พระองค์ทรงสละราชสมบัติให้กับพระเชษฐา พระองค์ทรงเสด็จมาประทับอยู่ที่ พระตำหนักคำหยาต ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ผู้เป็นพระราชบิดาทรางได้สร้างเอาไว้เป็นที่ประทับแรมเมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองอ่างทอง และในบทความนี้เราจะพาไปย้อนดูประวัติและความเป็นมาของ ที่เที่ยวอ่างทอง แห่งนี้กันครับ

พระตำหนักคำหยาด จังหวัดอ่างทอง

พระตำหนักคำหยาด

ประวัติและความเป็นมา

อนุสรณ์สถานปลีกวิเวกของ “ขุนหลวงหา” พระนามที่ชาวบ้านคำหยาดได้ขนานนามให้ สมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ 4 หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในพระนาม “พระเจ้าอุทุมพร” กษัตริย์พระองค์ที่ 32 ของกรุงศรีอยุธยา ยังคงเหลือให้เห็น อยู่จนถึงทุกวันนี้ มีชื่อว่า “พระตำหนักคำหยาต” อยู่กับใกล้วัดคำหยาด ในอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง

พระเจ้าอุทุมพรเป็นราชโอรสในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตอนที่พระราชชนนีทรงครรภ์นั้น พระราชบิดาทรงพระสุบินว่ามีผู้ถวายดอกมะเดื่อให้ จึงพระราชทานพระนามว่า เจ้าฟ้าอุทุมพรราชกุมาร แต่เรียกกันทั่วไปว่า “เจ้าฟ้าดอกมะเดื่อ”

พระตำหนักคำหยาด

และเมื่อตำแหน่งรัชทายาทนั้นว่างลง เนื่องจาก “เจ้าฟ้ากุ้ง” หรือ “เจ้าฟ้าธรรมธิเบศ ถูกราชโอรสองค์โตต้องพระราชอาญาถึงแก่สิ้นพระชนม์ จงทำให้ขุนนางข้าราชการทูลขอให้ทรงสถาปนาเจ้าฟ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิตขึ้นมาเป็นรัชทายาทแทน แต่เจ้าฟ้าอุทุมพรพระองค์กลับขอให้สถาปนาพระเชษฐา กรมหลวงอนุรักษ์มนตรี หรือ เจ้าฟ้าเอกทัศน์ ให้ขึ้นเป็นรัชทายาทแทนพระองค์ แต่พระราชบิดาไม่ทรงยินยอมให้เป็นเช่นนั้น

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2301 ในเวลานั้น พระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรอยางหนัก พระองค์จึงได้รับสั่งให้พระราชโอรสที่มีบทบาทสำคัญเสด็จมาเข้าเฝ้า พร้อมกับทรงตรัสมอบสมบัติให้เจ้าฟ้าอุทุมพร และทรงสั่งให้คนอื่น ๆ ทำการถวายสัตย์ยอมเป็นข้าทูลละอองต่อเจ้าฟ้าอุทุมพร เมื่อเจ้าฟ้าเอกทัศน์ทรงทราบข่าวก็รีบลาผนวชกลับมาอยู่วัง และรอขึ้นครองราชย์แทน ด้วยถือว่าพระองค์เป็นพระราชโอรสที่อาวุโสมากที่สุดครับ

เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคต ขุนนางข้าราชการก็อัญเชิญเจ้าฟ้าอุทุมพรขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติตามพระบรมราชโองการ แต่เจ้าฟ้าเอกทัศน์กลับเสด็จขึ้นประทับบนพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ ซึ่งเป็นที่ประทับของกษัตริย์

พระตำหนักคำหยาด

เจ้าฟ้าอุทุมพรทรงเห็นว่าพระเชษฐานั้นอยากขึ้นครองราชย์ พระองค์เลยสละราชสมบัติให้หลังจากที่ครองราชย์ได้เพียง 10 วัน แล้วทรงเสด็จออกผนวชที่วัดประดู่ จึงทำให้เจ้าฟ้าเอกทัศน์ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 หรือ พระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ แต่จะรู้จักกันทั่วไปในนาม พระเจ้าเอกทัศน์ หรือ “ขุนหลวงขี้เรื้อน” ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาที่เสียเมืองแก่พม่าครับ

เมื่อเสร็จศึกพม่า พระเจ้าเอกทัศน์ก็แสดงความไม่ไว้วางพระทัย ต่อ พระเจ้าอุทุมพร จึงเสด็จลงเรือพระที่นั่งไปทรงผนวชที่วัดโพธิ์ทองคำหยาด และไปประทับที่พระตำหนักคำหยาด ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับระยะหนึ่งก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับวัดประดู่ทรงธรรม พระตำหนักคำหยาต อยู่ถัดจากวัดโพธิ์ทอง ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2.5 กิโลเมตร

พระตำหนักก่อด้วยอิฐ ยกพื้นสูง มีใต้ถุนและเจาะช่องใต้ถุน เป็นรูปประตูโค้งแหลมตามแบบที่นิยมมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีมุขย่อกระเปาะด้านหน้าทางทิศตะวันออก เครื่องบนไม่มีเหลือ คงปรากฏเพียงผนังตึก

ความน่าสนใจ

พระตำหนักคำหยาด

ในปัจจุบันนี้พระตำหนักแห่งนี้ โดยทางกรมศิลปากรได้บูรณะและทำการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยจะตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา ก่อด้วยอิฐถือปูนมีขนาดกว้าง 10 เมตร และยาว 20 เมตร แต่ทว่ายังหลงเหลือเค้าความงดงามทางด้านศิลปกรรมอยู่ อย่างเช่น ลวดลายประดับซุ้มจรนำหน้าต่าง ซึ่งมีมุขเด็จด้านหน้าและด้านหลัง ภายในนั้นทาดินแดงปูพื้นกระดาน ร่องรอยของโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมฉาบฉายให้เห็นถึงเรื่องราวและความทรงจำในสมัยอดีตได้อย่างน่าสนใจ

พระตำหนักคำหยาต มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย โดย สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ทรงเสด็จมาผนวชที่วัดโพธิ์ทอง ซึ่งพระองค์ท่านเล็งเห็นว่าเป็นที่เหมาะสม ในการจำวัดและปลีกวิเวก ซึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีข่าวถึงการแย่งชิงราชบัลลังก์ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ไม่ประสงค์เป็นผู้ครองนคร ได้ทรงมาผนวชที่วัดโพธิ์ทอง ใช้พระตำหนักคำหยาต เป็นที่ปลีกวิเวก ซึ่งพระตำหนักคำหยาต ถือว่าเป็นโบราณสถานประวัติศาสตร์แห่งเดียวของจังหวัดอ่างทอง

พระตำหนักคำหยาด

ปัจจุบัน “พระตำหนักคำหยาต” ได้มีเจ้าหน้าที่ของทางองค์การบริหารส่วนตำบลคำหยาด เข้ามาเป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีผนังอิฐ 4 ด้าน ประตูและหน้าต่างนั้นมีลักษณะโค้งยอดแหลม เหมือนกับสถาปัตยกรรมสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งจะได้รับอิทธิพลมาจากเปอร์เซีย ทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เป็นอนุสรณ์ให้นึกถึง “ขุนหลวงหาวัด”

ข้อมูลของ

  • สถานที่ตั้ง : ตำบล คำหยาด อำเภอ โพธิ์ทอง อ่างทอง
  • วันเวลาที่เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
  • เบอร์โทรศัพท์ : –

พระตำหนักคำหยาด จังหวัดอ่างทอง แห่งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นพระตำหนักเล็กๆ แต่ก็ถือว่าเป็นพระตำหนักที่เต็มไปด้วยความสวยงาม รวมถึงร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งเมืองไทยเลยครับ หากทุกคนนั้นเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญ พระตำหนักแห่งนี้ก็จะได้ไม่เงียบเหงาและจะได้ไม่เป็นพระตำหนักเล็ก ๆ ที่ถูกลืมไปครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ

Scroll to Top