ใครที่ไปเที่ยวภาคอีสาน แล้วกำลังมองหาที่เที่ยวบรรยากาศดี ๆ สามารถเดินเล่นได้แบบเพลิน ๆ บ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของชุมชนคาทอลิก ซึ่งเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่น่าปักหมุดไปมาก ๆ เพราะนอกจากเราจะได้ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ที่เที่ยวสกลนคร นี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมดอีกด้วยครับ เพราะฉะนั้นเตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับที่นี่กันเลยดีกว่า
บ้านท่าแร่ สกลนคร
ความเป็นมาของสถานที่
ถ้าพูดถึงหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย คงต้องยกให้กับ บ้านท่าแร จังหวัดสกลนคร อย่างแน่นอนครับ ส่วนความเป็นมาของชุมชนนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2427 โดยมี ชาวญวน และ ชาวไทยญ้อ ที่ได้อพยพมาจากประเทศเวียดนามเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองสกลนคร แต่เพราะตอนนั้นมีการกีดกันการนับถือศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกจากกลุ่มผู้ปกครองเมืองสกลนครในสมัยนั้น ทำให้ คุณพ่อโปรดม หรือ คุณพ่อซาเวียร์ เกโก บาทหลวงชาวฝรั่งเศส และครูทัน ซึ่งเป็นชาวเวียดนาม นั้นนำกลุ่มชาวคริสตังราวๆ 150 คน เปลี่ยนย้ายถิ่นฐานและไปตั้งอยู่ตรงชายฝั่งหนึ่งของ หนองหาร ซึ่งในสมัยนั้น พื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นดินลูกรังที่เรียกว่า หินแฮ่ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อชุมชน “ท่าแฮ่” และเพี้ยนเสียงจนกลายมาเป็น “ท่าแร่” จนถึงทุกวันนี้ครับ
ความน่าสนใจ
เนื่องจาก บ้านท่าแร นั้นเป็นหมู่บ้านที่ได้รวบรวมผู้คนจากหลายชนเผ่า อย่างเช่น เผ่าผู้ไทย ไทลาว ไทญ้อ และเวียดนาม จึงทำให้อาคารเรือนของ บ้านแร่ มีรูปแบบของอาคารบ้านเรือนที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนเผ่า โดยชาวไทยที่มีเชื้อสายเวียดนามทั่วไปก็จะอาศัยอยู่ในบ้านไม้เรือนแถวแบบชั้นเดียว ส่วนบรรดาคนที่มีฐานะนั้นก็จะสร้างเป็นตึกก่อด้วยอิฐฉาบปูน มีลวดลายที่สวยงามไปตามศิลปะแบบยุคโคโลเนียล ฝรั่งเศส-เวียดนาม ซึ่งบ้านเรือนทั้งหมดที่ปลูกสร้างนั้นจะถูกจัดวางในรูปแบบผังเมืองยุโรป คือการจัดผังเมืองเป็นแบบล็อคๆ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ
ใครที่ได้มาเยือน บ้านท่าแร จะได้เจอกับจุดถ่ายรูปสวยๆ เยอะมากๆ เริ่มที่แรกกันด้วย อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ที่มีลักษณะคล้ายกับเรือ เพื่อเป็นการระลึกถึงการย้ายถิ่นฐานของชาวคริสตังจากเมืองสกลนคร และมาอยู่ที่ชุมชนท่าแร่เมื่อ 100 กว่าปีก่อนครับ แต่เดิมที่นี่เคยเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้มากกว่าพันคน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มเกิดการชำรุดทรุดโทรม จึงทำให้มีการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2521 โดยมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย ซึ่งมีขนาดใหญ่โต แปลกตา และมีความหมายต่อการก่อตั้งหมู่บ้านท่าแรแห่งนี้มากๆ เลยครับ
และไม่ไกลจาก อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล นั้นจะมีร้าน ข้าวเปียกโบราณฟรานซิสโก ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นบ้านเก่าแก่อายุมากกว่าร้อยปี แต่ได้มีการดัดแปลงให้กลายมาเป็นร้านอาหาร ซึ่งสะท้อนให้เราได้เห็นถึงสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ที่มีกลิ่นอายยุโรปและเวียดนามได้อย่างชัดเจน หากใครได้ไปถ่ายรูปอาคารสวยๆ แล้วก็อย่าลืมแวะไปอุดหนุนอาหารที่ร้านนี้กันดูครับ
สถานีต่อไป คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ ที่นี่บอกได้คำเดียว่าสุดอลังจริง ๆ เพราะสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสโดยช่างยอดฝีมือที่อพยพมาจากประเทศเวียดนาม ตัวอาคารทาด้วยสีโทนอุ่น อีกทั้งยังมีลวดลายที่สวยงามและโอ่อ่า ถึงแม้สีจะซีดและจืดจางไปตามกาลเวลาบ้างก็ตาม แต่ทว่าก็ยังคงเสน่ห์ความเป็นศิลปะสุดคลาสสิกไว้เป็นอย่างดีครับ เป็นจุดถ่ายรูปสุดปังที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปกัน
ข้างๆ กันกับคฤหาสน์ก็มี บ้านโบราณ องเลื่อง โสรินทร์ ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันคือสไตล์โคโลเนียล เพียงแต่จะมีลายละเอียดเล็กๆ ตรงบัวบนซุ้มประตูหน้าอาคารที่ได้สร้างความแตกต่าง ตรงนี้ก็ถือเป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวยไม่แพ้กันเลยครับ
ยังมีอีกสถานที่ที่หนึ่งที่ไม่อยากให้พลาด นั่นก็คือบ้านโบราณของ นายหนู ศรีวรกุล (เฮียน เรียนดึงดึง) และ นางหนูนา อุปพงษ์ ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวคริสต์ครับ เพราะนับตั้งแต่จบสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปแล้ว ทางราชการได้สั่งให้ปิดโบสถ์ทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวคริสต์ไม่สามารถประกอบพิธีทางศาสนาได้ครับ จึงต้องหาสถานที่อื่นๆ เพื่อใช้ในการทำพิธีต่างๆ แทน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นเมื่อบ้านหลังนี้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมา จนทำให้ถูกทิ้งร้างจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ตอนนี้บ้านหลังนี้จะเหลืออยู่แค่เพียงซากอิฐ และมีรากของต้นโพธิ์ขึ้นจนรกรุงรัง แต่ก็ถือว่าเป็นจุดถ่ายรูปที่มีความแปลกตา และแฝงไปด้วยความขลังในเวลาเดียวกันครับ
ข้อมูล บ้านแร สกลนคร
- สถานที่ตั้ง : ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- วันเวลาที่เปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 18.00 น.
คงต้องบอกว่า บ้านท่าแร่ เป็น ที่เที่ยวสกลนคร ที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ หากได้มาที่จังหวัดนี้ครับ การได้มาเห็นความสวยงามของสถาปัตยกกรรมในสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกับถ่ายรูปสวย ๆ ปัง ๆ เก็บไว้ในสตอรี่ นั้นทำให้รู้สึกดีมากๆ เลยครับ ใครที่ได้มาสกลนคร อย่าลืมปักหมุดแล้วมาเที่ยวกันนะครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ