ทำความรู้จัก ผามออีแดง ศรีสะเกษ จุดชมวิวสุดชิลใกล้เขาพระวิหาร สัมผัสความงาม ชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อเอ่ยถึง “เขาพระวิหาร” หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าพูดถึง “ผามออีแดง” อาจจะมีคนไม่ค่อยรู้จักนัก ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความงดงามของธรรมชาติ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ และบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร สำหรับใครสนใจอยากลองไป ที่เที่ยวศรีสะเกษ แห่งนี้ ตามเราไปดูกันเลย

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

ผามออีแดง

“ผา-มออีแดง” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นสถานที่ที่หลายคนมักมองข้าม แม้จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะภาพหินแกะสลักที่มีอายุนับพันปีซ่อนอยู่ที่นี่

ที่ผา-มออีแดง มีเรื่องเล่าขานกันว่า มีครูหญิงชื่อแดงนั่งอยู่ด้านหน้ารถคู่กับคนขับ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าผา รถเกิดเสียหลัก ครูแดงตกใจและกระโดดลงจากรถ แต่กลับถูกทับโดยรถ ครูแดงไม่ได้เสียชีวิตในทันที แต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลอยู่นาน หลังจากที่ครูแดงเสียชีวิตไป มีผู้คนรายงานว่าเห็นวิญญาณของครูแดงมาหลอกหลอนที่บริเวณนี้ จึงทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า “ผา-มออีแดง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ผา-มออีแดงตั้งอยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 200 เมตร เป็นหน้าผาหินสีแดงที่มีลักษณะเป็นแนวผาหักชันลงสู่เบื้องล่าง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา แนวผานี้มีความยาวประมาณ 300 เมตร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินราบที่มีความลาดชันไม่มากนัก นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกล รวมถึงปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรได้อย่างชัดเจน

ผามออีแดง

เบื้องล่างสามารถมองเห็นทิวเขาและป่าที่กว้างใหญ่ในเขตประเทศกัมพูชา ซึ่งเรียกว่าเขมรต่ำ ถึงแม้ว่าจะมีรั้วและแนวหินกั้นอยู่ที่ขอบหน้าผา แต่ผู้ที่มาเยือนยังคงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลไปยังเขมรโดยไม่ตั้งใจได้

ทางทิศใต้ของผา-มออีแดง ทหารไทยที่ประจำการในพื้นที่นี้ได้ค้นพบ “ภาพแกะสลักนูนต่ำ” บนผนังหินทรายที่ตั้งอยู่ใต้หน้าผา โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเชื่อว่าเป็นทิศแห่งความก้าวหน้า ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงจากดวงอาทิตย์จะสะท้อนที่ภาพ ทำให้เกิดความงดงามอย่างยิ่ง

เป็นภาพของเทพที่มีลักษณะคล้ายนางอัปสรา 3 องค์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการฝึกฝนของช่างในการแกะสลักก่อนที่จะเริ่มงานจริงที่ปราสาทเขาพระวิหาร หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเซ่นไหว้ของช่าง นอกจากนี้ยังมีภาพสลักลายเส้นที่แสดงถึงพระนารายณ์อวตารในปางวราหาวตารด้วย โดยคาดว่าภาพแกะสลักนี้มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 (ราว 1,500 ปี) และอาจถือเป็นงานศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

เส้นทางที่จะไปชมภาพแกะสลักนี้เป็นบันไดแคบๆ ที่ต้องไต่ลงไปอย่างระมัดระวัง โดยสามารถเดินเรียงกันได้ 1-2 คนเท่านั้น ระหว่างทางที่ลงไป คุณจะเห็นผู้คนใช้ไม้ขนาดต่างๆ ค้ำยันในช่องหินของหน้าผา เนื่องจากมีความเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้ชีวิตยืนยาว แต่บางคนก็เชื่อว่าการใช้ไม้ค้ำหินนั้นเป็นการป้องกันไม่ให้หินหล่นลงมา

ผามออีแดง

เมื่อเดินไปถึงปลายทางของบันได จะพบกับประตูเหล็กที่กั้นระหว่างเราและภาพแกะสลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าไปสัมผัส ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพของภาพแกะสลักไม่ให้เสื่อมโทรมเร็วเกินไป นอกจากนี้ยังมีความเชื่อจากชาวเขมรว่า หากผู้หญิงคนใดได้สัมผัสหน้าอกของภาพแกะสลัก จะทำให้หน้าอกของเธอใหญ่ขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีประตูเหล็กกั้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้

บริเวณรอบผา-มออีแดง มีศาลา ม้านั่ง และมุมถ่ายภาพสวยๆ หลายจุด นอกจากนี้ยังมีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้มาเยือนผา-มออีแดงและปราสาทเขาพระวิหารให้ความเคารพและสักการะอย่างมาก

ใกล้กันนั้นยังมี “เสาธงชาติไทย” ที่มีประวัติที่น่าสนใจ เมื่อเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาเกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหาร ศาลโลกได้มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ว่าอธิปไตยเหนือปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ในขณะนั้น จอมพลประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทำการอัญเชิญเสาธงชาติไทยต้นนี้ ซึ่งเคยตั้งอยู่บนยอดเขาพระวิหารที่ผาเป้ยตาดี มาตั้งไว้ที่นี่ โดยไม่เคยลดธงลงจากยอดเสาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2505 เป็นต้นมา

ผามออีแดง

นอกจากผา-มออีแดงแล้ว อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ปราสาทโดนตวล น้ำตกตาดไฮ ช่องอานม้า สระตราว สถูปคู่ และน้ำตกถ้ำขุนศรี นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติกล้วยไม้ยาวประมาณ 1.5 กม. ซึ่งมีการปลูกกล้วยไม้หลากหลายชนิด เช่น เอื้องระฟ้า และกล้วยไม้เขาพระวิหาร รวมถึงพืชสมุนไพรอีกมากมายที่เหมาะสำหรับการศึกษาและค้นคว้าความรู้

และอีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือ ที่ ผามออีแดง มีมีทิวทัศน์ที่งดงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติ สามารถกางเต็นท์เพื่อพักผ่อน หรือจะนอนชมฝนดาวตกที่บริเวณหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวกันต่อที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ

Scroll to Top