วัดถ้ำแจง เพชรบุรี – องค์พญานาค ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยส่วนใหญ่นั้นให้ความเคารพนับถืออย่างมาก และยังอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาในเมืองไทยเรามาอย่างยาวนาน ดั่งที่เราเห็นได้ตามวัดวาอารามต่างๆ ในทุกวันนี้ครับ ซึ่งแต่ละวัดมักจะมีรูปปั้นองค์พญานาคอยู่ด้วยเสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าองค์พญานาคที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของเมืองไทยนั้น ได้ตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพียงแค่นี้เอง เพราะฉะนั้นวันนี้ วัดสวยเมืองไทย จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันครับ
วัดถ้ำแจง จังหวัดเพชรบุรี
ใครที่กำลังจะไปเที่ยวหรือมาทำธุระที่เพชรบุรี วัดดังเพรชบุรี ขอแนะนำอีกหนึ่งแลนด์มาร์กใหม่ และกำลังกลายเป็นที่นิยมของเหล่าสายมูทั้งหลาย ด้วยการไปกราบไหว้ขอพรจาก “พ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช” องค์พญานาคแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรี
ประวัติความเป็นมาของวัด
“วัดถ้ำแจง” มีสถานที่ตั้งอยู่ใน ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมี ดร.วิชัย เตชธมฺโม เป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบัน ท่านได้จัดสร้างพ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช ขึ้นเป็นแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรี และยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีสูงราว 31 เมตร ส่วนลำตัวมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างถึง 2 เมตร ความยาวของลำตัวรูปยันต์อุนาโลม โดยมีช่องลอดจำนวน 9 ช่อง มีความยาวถึง 227 เมตร โดยองค์พญานาคมีลักษณะสีนิลปาล หรือสีเขียวปีกแมลงทับมีมิติ เพราะเป็นงานที่มีความละเอียดอ่อนในรูปแบบโครงสร้าง ลวดลายที่ละเอียดอ่อนวิจิตรงดงาม ด้วยการลงสีสันให้ออกมาสวยงามและอลังการ
ความน่าสนใจของวัด
พญานาค “พ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช”
สำหรับองค์พญานาค ณ ที่แห่งนี้ ได้นายประพัฒน์ มะนิสสา (อาจารย์ปื๊ด ปูนปั้น) เป็นคนทำการออกแบบและปั้นพญานาคองค์นี้ขึ้นมาครับ โดยใช้ระยะเวลาในการสร้างนานกว่า 2 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่เศษ ซึ่งทางวัดได้เปิดให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่เพชรบุรี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม พร้อมกราบไหว้ขอพรตามความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
โดยท่านเจ้าอาวาส ได้กล่าวว่า องค์พญานาค “พ่อปู่พญาเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช” นั้นมีสีสันลวดลายที่สวยสดงดงามวิจิตร แต่ทว่ายังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยทางวัดได้มีพิธีวางศิลากฤษพระอุโบสถแบบล้านนาหลังใหม่ ในสมัยปี พ.ศ. 2534 ตอนที่อาตมาได้จำวัดอยู่ที่วัดไสกระดาน จังหวัดเพชรบุรี ลูกศิษย์คนที่เป็นเจ้าภาพสร้างให้ นั้นได้ผ่านมาทางวัดถ้ำแจง จและมีความคิดอยากได้ที่แถวนี้ เพื่อสร้างสิ่งที่พิเศษที่สุดในจังหวัดเพชรบุรี และเวลาล่วงเลยผ่านมากว่า 30 ปี ได้มีพระผู้ใหญ่แจ้งกับอาตมาว่าให้กลับมาสร้างวัดนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่ง ณ ตอนนั้นวัดเกือบจะร้างเพราะขาดคนดูแล อีกทั้งวัดก็ไม่มีพระอุโบสถอีกด้วย
จากนั้นปี พ.ศ. 2558 ท่านได้ย้ายไปจำวัดอยู่ที่ จังหวัดหนองคาย เป็นจำนวน 6 ปี ในคืนหนึ่งได้เห็นดวงไฟลอยขึ้นมาภายในวัดที่สร้างเอาไว้ในจังหวัดหนองคาย หลังจากนั้นได้ฝันว่าจะกลับมาสร้างองค์ปู่พญานาค ประจำทิศตะวันตกที่เพชรบุรีแห่งนี้ ซึ่งทางทิศตะวันตกนั้นจะมีนาคราชเป็นผู้รักษาทิศตะวันตกอยู่ และจังหวัดเพชรบุรีก็อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ แต่ไม่เคยนึกเลยว่าจะได้สร้างพ่อปู่พญานาคองค์นี้มาก่อน ด้วยจังหวะและโอกาสที่เข้ามาพร้อมๆ กัน จึงมีโอกาสสร้างพ่อปู่พญานาคองค์นี้ขึ้นมา
ถ้ำแจง เพชรบุรี
บริเวณด้านหลังวัดนั้นยังมีถ้ำแจง โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดรูปแรก พระปลัดใหม่ มหาปัญโญ ได้เคยกล่าวว่าในปี พ.ศ. 2517 เดิมที่นั้นวัดแห่งนี้ เป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์ ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นวัดในปี พ.ศ. 2553 หลังจากท่านทราบว่าได้ประกาศเป็นวัดแล้ว ท่านจึงได้ละสังขารไปเลย โดยที่ผ่านมา ท่านได้บูรณะถ้ำไว้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้เดินทางมากราบไหว้ทำบุญกัน ซึ่งเป็นถ้ำที่ดี และมีความสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วนอุทยานเขานางพันธุรัตน์ โดยทางกรมอุทยานแห่งชาติยินดีให้ทางวัดช่วยร่วมบรูณะถ้ำแจง ทั้งทำการซ่อมแซมทางขึ้นใหม่ จะทำให้กลายเป็นถ้ำที่สวยงามมาก โดยมีขนาดกลาง และมีเส้นทางเดินที่ลึก
อีกทั้งถ้ำแจงยังไม่ค่อยมีใครทราบ แม้แต่คนเพชรบุรีเองยังไม่ค่อยทราบว่ามีถ้ำอยู่บริเวณหลังวัด ทางวัดจึงอยากจะร่วมกับอุทยานฯ ปรึกษาหารือในการบูรณะถ้ำแจงขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม กราบสักการะ และเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเพชรบุรี
และทั้งหมดนี้คือความเป็นมาและความน่าสนใจของ วัดถ้ำแจง จังหวัดเพชรบุรี อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวไหว้พระ ที่สายมูควรปักหมุดเอาไว้เลยครับ เพราะที่ เพชรบุรี นั้นมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไหว้พระหรือทะเล สุดสัปดาห์นี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหน ลองแวะเวียนไปเที่ยวกันดูได้ครับ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากเท่าไหร่อีกด้วย สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ด้วยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหว้พระที่ไหน รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ