หมู่บ้านฝรั่งเศส นั้นทำให้เรานึกถึงเวลาที่ดูการ์ตูนแนวเทพนิยายหรืออ่านนิทาน เพราะจะมีภาพของหมู่บ้านที่มีสีสันสดใส บรรยากาศอบอุ่นแสนน่ารักปรากฏขึ้นมาในจินตนาการได้อย่างเสมอ ซึ่งภาพเหล่านั้นถือว่าไม่ได้ไกลเกินกว่าความเป็นจริงเลยครับ เพราะที่ แคว้น Alsace ฝรั่งเศส นั้นมี หมู่บ้านที่แสนจะโรแมนติกราวกับเทพนิยาย อีกทั้งยังสวยงามและบรรยากาศดีมากยิ่งกว่าที่เราจินตนาการเอาไว้อีกด้วยครับ เห็นแล้วก็อยากจะวาร์ปไป ที่เที่ยวฝรั่งเศส แห่งนี้ทันทีเลย
5 หมู่บ้านฝรั่งเศส
1. Colmar
หากพูดถึงหมู่บ้านที่งดงามที่สุดในแคว้นอาลซัส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส ชื่อแรกที่นึกถึงคงจะเป็นกอลมาร์ (Colmar) หมู่บ้านที่น่ารักซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และยังคงรักษาเสน่ห์ของความคลาสสิกในยุคกลางไว้ได้อย่างดี เช่น Maison des Têtes คฤหาสน์ทรงสูงจากยุคเรอเนซองส์ (Renaissance) และ Maison Pfister อาคารหอคอยเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ เนื่องจากกอลมาร์ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสติดกับประเทศเยอรมัน จึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอย่างมากมาย
เสน่ห์ของกอลมาร์ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักของบ้านเมืองเท่านั้น แต่ยังมีลำคลองที่ไหลผ่านตลอดเส้นทาง จนได้รับการขนานนามว่า “Little Venice” (la Petite Venise) นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ Ville Fleurie หรือ “เมืองแห่งดอกไม้” ซึ่งหมายถึง “หมู่บ้านแห่งดอกไม้” อีกด้วย หากเราสังเกตให้ดี จะเห็นกระถางต้นไม้ตั้งอยู่ตามระเบียงของบ้านแต่ละหลัง เมื่อฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนมาถึง ดอกไม้เหล่านั้นจะบานสะพรั่ง ทำให้หมู่บ้านนี้มีสีสันและชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
2. Riquewihr
ที่นี่คือหนึ่งในแรงบันดาลใจสำหรับหมู่บ้านของเบลล์ในภาพยนตร์ Beauty and the Beast (1991) และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส (Les Plus Beaux Villages de France) อีกด้วย เมื่อเราเดินเข้าสู่ตัวเมือง เราจะพบกับบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส ราวกับว่าเราได้หลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยาย โดยมีถนน Rue du Général-de-Gaulle เป็นถนนหลักของหมู่บ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านไวน์ชื่อดัง และร้านขนมปังที่อบสดใหม่ทุกวัน ก่อนที่จะสิ้นสุดที่ Dolder Gate Tower หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1291 ซึ่งปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม
3. Ribeauvillé
เพียง 4 กิโลเมตรจาก Riquewihr คุณจะพบกับ Ribeauvillé หมู่บ้านที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหมู่บ้านในภาพยนตร์เบลล์ ที่นี่มีชื่อเสียงในฐานะ Ville Fleurie หรือหมู่บ้านแห่งดอกไม้ เช่นเดียวกับกอลมาร์ โดยมีการตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสันตามระเบียงบ้าน ถนน และลานน้ำพุ รวมถึงรูปปั้นต่างๆ ทำให้บรรยากาศสวยงามมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน นอกจากนี้ เมื่อออกนอกเมือง คุณยังจะได้พบกับปราสาทโบราณบนเนินเขา ได้แก่ Château Saint Ulrich, Château Girsberg และ Château du Haut-Ribeaupierre ซึ่งมอบวิวทิวทัศน์ที่งดงามของหมู่บ้านและไร่องุ่นที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ
4. Strasbourg
สตราสบูร์ก เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นอาลซัส โดยยังคงรักษาเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุคกลางไว้ได้อย่างดี โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ในใจกลางเกาะกรองด์ (Grand Island) ซึ่งมีมหาวิหารสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral) ที่มีสถาปัตยกรรมโกธิค (Gothic) อันงดงามเป็นจุดเด่น ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอีล (River Ill) และต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ทัศนียภาพที่สวยงามและบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO เป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะล่องเรือไปตามแม่น้ำอีลเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่โรแมนติก และเนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กับพรมแดนเยอรมัน หลายคนจึงมักจะเดินทางต่อไปยังเยอรมันหลังจากเยี่ยมชมที่นี่
5. Obernai
จาก Strasbourg ประมาณ 25 กิโลเมตร จะพบกับเมือง Obernai ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการเติบโตสูงที่สุดในฝรั่งเศส ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ประชากร และการขยายตัวของเมือง ที่นี่เราจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่จากยุคโกธิคและเรอเนสซองส์ที่จตุรัส Place du Marché ซึ่งเป็นศูนย์กลางของร้านค้าและอาคารโบราณมากมาย รวมถึง Hôtel de Ville ศาลากลางที่มีการตกแต่งในสไตล์นีโอ-เรอเนสซองส์ และ Church of Saints Peter and Paul โบสถ์ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1867 โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค
และทั้งหมดนี้คือ 5 หมู่บ้านฝรั่งเศส แคว้นอาลซัส (Alsace) ครับ แต่ละหมู่บ้านนั้นมีเสน่ห์และสวยงามมาก ๆ เหมือนกับเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเทพนิยาย อย่างไรอย่างนั้นเลยครับ สำหรับวันนี้ เว็บหวยสด คงต้องขอตัวลากันไปก่อน บทความหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อ รอติดตามชมกันได้เลย สวัสดีครับ