Author name: admin

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในเมืองหงสาวดี ประเทศพม่า ที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ นักเดินทางได้รู้จักในวันนี้ ก็คือ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง ซึ่งเป็นพระนอนที่สวยที่สุดในประเทศพม่าเลยครับ พระนอนที่งดงามนี้ตั้งอยู่ที่หงสาวดี ใครที่สนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมของ ที่เที่ยวพม่า แห่งนี้ ลองตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง ประเทศพม่า ทำความรู้จักกับสถานที่ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว หรือที่เรียกกันว่า พระนอนชเวตาลยอง ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าเมงกะติปะ กษัตริย์แห่งมอญ ในปี พ.ศ. 1537 หรือในช่วงอาณาจักรสุธรรมวดี ปัจจุบันพระนอนองค์นี้มีอายุกว่า 1,018 ปี ยาวถึง 55 เมตร ซึ่งถือเป็นพระนอนในท่านอนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนตาหวานในเมืองย่างกุ้งที่มีความยาวถึง 70 เมตร ในอดีตพระนอนชเวตาเลียวเคยถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน และได้มีการค้นพบเมื่ออังกฤษเข้ามาสำรวจเส้นทางรถไฟในพม่าเมื่อประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงมีการบูรณะและปรับปรุงจนกลายเป็นสถานที่ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ ความน่าสนใจ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญอันดับสองของเมืองหงสาวดี รองจากพระมหาธาตุมุเตา โดยมีขนาดยาวถึง 181 ฟุต และสูง 50 ฟุต สร้างขึ้นโดยพระเจ้าเมงกะติปะในปี พ.ศ. 1537 […]

ตามเรามาสำรวจอีสานกันที่จังหวัดหนองคาย เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องบั้งไฟพญานาค ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาด เราจึงอยากแนะนำ 5 ที่พักหนองคาย ที่มีราคาย่อมเยา มาให้ทุกคนได้ไปเช็กอินแบบชิลๆ ใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวหนองคาย เพื่อชมงานบั้งไฟพญานาค หรือแค่ต้องการพักผ่อนสักคืนก่อนจะไปเที่ยวเวียงจันทน์ สามารถจัดทริปตามนี้ได้เลย เปิดพิกัด 5 ที่พักหนองคาย 1. โรงแรมรอยัลนาคาราหนองคาย โรงแรมรอยัล นาคารา หนองคาย (Royal Nakhara Hotel and Convention Centre Nongkhai) เป็นที่พักในหนองคายที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการในที่เดียว เนื่องจากนอกจากจะมีทำเลที่เดินทางสะดวกสบายแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันอีกด้วย ห้องพักมีการตกแต่งที่เรียบง่ายตามมาตรฐาน ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น วัดโพธิชัย วัดลำดวน วัดพระธาตุบังพวน วัดศรีชมพู ตลาดท่าเสด็จ และถนนคนเดินริมโขง (เฉพาะวันเสาร์) พร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ 2. โรงแรมอมันตา AMANTA Hotel Nongkhai เชิญชวนครอบครัวมาสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่แท้จริงที่ โรงแรมอมันตา (AMANTA Hotel Nongkhai) โรงแรมในเมืองหนองคาย ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแสนชิล โมเดิร์นและโปร่งสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ห้องพักตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีอบอุ่น ช่วยสร้างบรรยากาศที่รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

อีสาน หนึ่งในภูมิภาคที่มีพระธาตุสำคัญ ต้องไม่พลาดไปสักการะ พระธาตุโพนจิกเวียงงัว ที่ จังหวัดหนองคาย ครับ เนื่องจากที่นี่มีพระธาตุหลากหลายแห่งให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้ไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างจุใจ โดยวันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสกับ พระธาตุโพจิกเวียงงัว พระธาตุโบราณที่มีอายุเกือบห้าร้อยปี มาชมความงดงามของพระธาตุแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ พระธาตุโพนจิกเวียงงัว จังหวัดหนองคาย ทำความรู้จักกับสถานที่ พระธาตุโพนจิกเวียงัว ตั้งอยู่ที่ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ภายในวัดมีเจดีย์ทรงระฆังที่มีลักษณะเฉพาะตัว สร้างจากอิฐผสมดินและยางไม้ มีฐานประทักษิณที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนาดกว้าง 17.50 เมตร ยาว 17.50 เมตร ภายในฐานประทักษิณมีการถมดินอัดแน่น และอาจมีการฉาบขอบฐานประทักษิณด้วยปูน ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าโพธิสารราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้วครับ ตำนาน พระธาตุโพนจิกเวียงัว (พระธาตุบุ) ตามตำนานอุรังคธาตุ มีการกล่าวถึงว่าพระพุทธองค์ได้ทอดพระเนตรไปยังแลนคำแลบลิ้นที่โพนจิกเวียงงัว ซึ่งตั้งอยู่ใต้ปากห้วยกุคำ พระพุทธเจ้าจึงทรงแย้มพระโอฐออกมา พระอานนท์จึงถามพระพุทธเจ้าว่าเหตุใดพระองค์จึงทรงแย้มพระโอฐเช่นนั้น พระพุทธเจ้าจึงได้พยากรณ์แก่พระอานนท์ว่า ดูเถอะอานนท์ ตถาคตเห็นคำแลบลิ้นเป็นเหตุ ดินแดนสุวรรณภูมินี้คือที่พักอาศัยของนาคทั้งหลาย มีสุวรรณนาคเป็นหลักฐาน และยังมีผีเสื้อน้ำและเสื้อบก ยักษ์ทั้งหลาย อีกทั้งยังมีพุทธพยากรณ์เกี่ยวกับอนาคตของบ้านเมืองและพระมหากษัตริย์ที่จะปกครองดินแดนสุวรรณภูมิในลุ่มน้ำโขงอีกด้วย ครั้นในสมัยพระเจ้าจันทน์บุรี

วัดมณีโคตร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในหนองคาย ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาเพื่อกราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อพระเสี่ยง พระพุทธรูปโบราณที่มีชื่อเสียงในอำเภอโพนพิสัย ถ้าเช่นนั้นตามเราไปชมความงดงามของพระพุทธรูปองค์นี้กันเถอะครับ ใครที่สนใจอยากได้รายละเอียด วัดดังหนองคาย แห่งนี้ลองตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ วัดมณีโคตร จังหวัดหนองคาย ทำความรู้จักกับสถานที่ วัดมนีโคตร ตั้งอยู่ในตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เป็นวัดที่มีชื่อเสียง ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโพนพิสัย นั่นก็คือ หลวงพ่อพระเสี่ยง พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ มีขนาดหน้าตัก 8 นิ้ว สูง 24 นิ้ว และน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ถือเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และมีความงดงามอย่างยิ่งครับ ประวัติของวัด จากจารึกที่ วัดมนีโคตร ได้ระบุว่า สร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จพระโพธิวรวงศา เมื่อปี พ.ศ. 2144 เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเมืองปากห้วยหลวง และยังได้กล่าวถึงพระนามของบุรพกษัตริย์ล้านช้างอีก 2 พระองค์ ได้แก่ พระเจ้าชมพู และพระเจ้าตนหล้า ซึ่งเคยมีพระราชทานเขตที่ดินให้กับวัดนี้ ในทะเบียนแจ้งการก่อตั้งวัดในปี พ.ศ. 2221 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.

หลายคนที่เคยไปเที่ยวหนองคาย คงจะรู้จัก ตลาดท่าเสด็จ กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางการค้าจากประเทศเพื่อนบ้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลาว เวียดนาม หรือจีน วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจ ตลาดท่าเรือ หรือ ตลาดอินโดจีน หนองคาย ตลาดที่อยู่ริมฝั่งโขงกันว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรและมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตลาดท่าเสด็จ จังหวัดหนองคาย ทำความรู้จักกับสถานที่ ตลาดทาเสด็จ มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดท่าเรือหรือตลาดอินโดจีน แต่ทั้งหมดล้วนหมายถึงตลาดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เริ่มต้นจากที่นี่เรียกว่าตลาดอินโดจีน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้าที่นำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย เช่น ลาว เวียดนาม และจีน ต่อมาได้มีการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวขึ้นใกล้กับท่าเรือที่ตลาดสินค้าอินโดจีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดผ่านแดนสำหรับผู้ที่เดินทางระหว่างไทยและลาว จึงทำให้มีชื่อเรียกว่าตลาดท่าเรือ ในช่วงเวลาต่อมา ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีได้เสด็จเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดหนองคาย ทำให้ที่นี่ได้รับชื่อใหม่เรียกว่า ตลาดทาเสด็จ ความน่าสนใจ ของ ตลาดท่าเรือ ที่ตลาดแห่งนี้มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายของใช้ทั่วไป เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเล่นเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ และงานผ้าทอมือ นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งบ้านอย่างเครื่องจานที่ผลิตจากกระเบื้อง เครื่องมือช่าง

วัดพระบาทปู่ผาแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ จังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและตราตรึงใจผู้มาเยือน ด้วยบรรยากาศที่งดงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ราวกับสวรรค์บนดิน หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวในลำปางที่น่าสนใจ ลองร่วมเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งนี้พร้อมกัน วัดพระบาทปู่ผาแดง จังหวัดลำปาง ทำความรู้จักกับสถานที่ “วัดพระบาทแจ้ห่ม” มีชื่อทางการว่า “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “ดอยปู่ยักษ์” ตามที่ตั้งของวัด ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านทุ่งทอง หมู่ที่ 7 อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ขณะนี้ พระครูสังวรศีลคุณ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสของ วัดพระบาทแจ้ห่ม ตัวอาคารศาลาวัดและเจดีย์ต่าง ๆ ที่มีความสูง 815 เมตร จากระดับน้ำทะเล และตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ความน่าสนใจ ทางยอดเขาวัดนั้นมีความงดงามอย่างยิ่งในมุมมองที่สูง หรือที่เรียกว่า Bird Eye View สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการถ่ายภาพ พวกเขามักจะบันทึกความงามของวัดจากมุมสูง เช่น การถ่ายภาพจากเฮลิคอปเตอร์ หรือใช้โดรนในการบันทึกภาพและวิดีโอ รวมถึงสามารถเก็บภาพความงดงามระหว่างยอดเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย เจดีย์บนยอดเขา เจดีย์ตั้งอยู่บนยอดเขาเกิน 10 องค์ ภายในเต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของพระสงฆ์และชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 10

หากพูดถึงความงามของหุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีน คงจะเปรียบได้กับงานศิลปะชิ้นเอกที่ไม่เหมือนใคร นี่คือผลงานที่เกิดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีเป็นเฉดที่งดงามตัดกับทะเลสาบสีมรกตที่ใสสะอาดราวกับกระจกได้อย่างลงตัว ด้วยความสวยงามที่เหมือนอยู่ในฝัน ทำให้จิ่วจ้ายโกวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน ซึ่งเป็นจุดหมายที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต หุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou National Park) สาธารณรัฐประชาชนจีน ทำความรู้จักกับ จิ่วจ้ายโกว จิ่วจ้ายโกว หรือที่เรียกว่า อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou National Park 九寨沟国家公园) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 720 ตารางกิโลเมตรในมณฑลเสฉวน (Sichuan) โดยมีหุบเขาจิวจ้ายโกว (Jiuzhaigou Valley) ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของภูเขา Min Mountain เป็นส่วนสำคัญของอุทยานนี้ ด้วยความงดงามของป่าที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งมีพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ทะเลสาบน้ำจืดมากกว่า 144 แห่ง และน้ำตกขนาดใหญ่ อุทยานแห่งนี้จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ. 1992 และยังได้รับการประกาศให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑล (World Biosphere Reserve) อีกด้วย ชื่อ “จิ่วจ้ายโกว”

หลายคนอาจเคยไปเยือนพิษณุโลกกันมาแล้ว แต่วันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ไหว้พระ 5 วัดดังพิษณุโลก กันครับ มีทั้งวัดที่มีชื่อเสียง วัดโบราณ และวัดที่มีความงดงามครบครัน ใครที่เป็นสายบุญอย่ารอช้า ตามเรามาดูเลยครับ แล้วคุณจะได้เห็นว่าวัดที่นี่สวยไม่แพ้ที่ไหนเลยจริง ๆ ครับ เปิดพิกัด 5 วัดดังพิษณุโลก 1. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีพระพุทธชินราช พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์อยู่ที่นี่ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และได้รับความเคารพจากชาวพิษณุโลกแล้ว ยังถือเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ภายในวัดยังมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระเหลือ วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน และอัฏฐารส เป็นต้น 2. วัดนางพญา วัดนางพญา เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง ชื่อ “วัดนางพญา” มาจากพระวิสุทธิกษัตริย์ตรี พระราชมารดาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในยุคกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้ก่อตั้งพระอารามนี้ขึ้นและสร้างพระนางพญา หนึ่งในพระชุดเบญจภาคี ไว้ในองค์เจดีย์อีกด้วย แต่เนื่องจากสงครามในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้วัดนี้ถูกละทิ้ง จนกระทั่งมีการค้นพบพระนางพญาอีกครั้ง ทำให้ชื่อเสียงของวัดนางพญาเป็นที่รู้จักไปทั่วเมืองพิษณุโลก ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อกราบไหว้และขอพรครับ 3. วัดราชบูรณะ วัดราชบูรณะ ถือเป็นวัดโบราณที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 1,000 ปี ตั้งอยู่ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ไฮไลท์ของวัดนี้อยู่ที่ความงดงามของพระอุโบสถ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ชายคาถูกประดับด้วยนาค

วัดดังขอนแก่น ถือเป็นจังหวัดใหญ่ในภาคอีสานที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีวัดสวยงามหลายแห่ง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการทำบุญและจัดทริปไหว้พระ 9 วัดในขอนแก่น รับรองว่าทุกคนจะได้สัมผัสกับความอิ่มเอมใจ และนอกจากนี้ยังได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่งดงามและธรรมชาติที่สวยสดงดงามอีกด้วย เปิดพิกัด 5 วัดดังขอนแก่น 1. วัดป่าแสงอรุณ วัดป่าแสงอรุณ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ประเภทสามัญ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2473 อาคารที่สำคัญที่สุดคือ สิมอีสาน ซึ่งในภาษาอีสานหมายถึง พระอุโบสถ สิมนี้ถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างอีสานตอนบนและตอนกลาง มีรายละเอียดที่งดงามอย่างยิ่ง ด้านในมีพระพุทธรังสิโยภาสสุขพิพัฒน์ ประดิษฐานเป็นพระประธานในปางมารวิชัย ส่วนด้านนอกหลังสิมอีสานมีพระพุทธรูปปางรำพึง รวมทั้งพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พื้นที่ภายในวัดมีลักษณะเป็นเนินสูงและบางส่วนเป็นหลุมบ่อ มีป่าไผ่และหญ้าคาขึ้นอยู่หนาแน่น นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้ยืนต้นอีกมากมาย ทำให้บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นและเงียบสงบ 2. วัดหนองแวง พระมหาธาตุแก่นนคร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พระธาตุ 9 ชั้น” โดยชาวเมืองขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ วัดหนองแวง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญต่อชุมชนขอนแก่น โดยองค์พระธาตุนั้นได้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2539 โดยมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมทวาราวดีเข้ากับลักษณะของอินโดจีน และถูกตกแต่งด้วยสีทองอร่าม ทำให้พระธาตุแห่งนี้มีความงดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ เรายังสามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมืองขอนแก่นได้จากชั้นบนของเจดีย์ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองขอนแก่น เพื่อกราบไหว้พระธาตุแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่รวมเอาศรัทธา ความสงบ และการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน วัดศรีบุญเรือง คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด วัดนี้ไม่เพียงแค่เป็นศาสนสถานสำหรับการสักการะและขอพรเท่านั้น แต่ยังเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และภูมิปัญญาของชาวล้านนา วันนี้เราจะพาทุกคนมาสำรวจวัดสวยเชียงรายแห่งนี้ ว่ามีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ตามเรามา ที่เที่ยวเชียงราย แห่งนี้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ วัดศรีบุญเรือง จังหวังเชียงราย วัดศีบุญเรือง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 และได้มีพิธีพุทธสีมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2491 นอกจากนี้ยังได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอีกครั้งในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554 ครับ ประวัติความเป็นมาของวัด วัด ศรีบุญเรือง เป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความสำคัญทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรม วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1982 และในบางช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ วัดนี้เคยกลายเป็นวัดร้างที่เสื่อมโทรม แต่ด้วยความตั้งใจในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทางพระพุทธศาสนา วัดจึงได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งหลังจากที่คุ้มเจ้าหลวงได้เปลี่ยนเป็นโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ และได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้ที่มีความเชื่อมั่นในศาสนา ต่อมาในปี พ.ศ. 2489 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการยอมรับในด้านศาสนา