Uncategorized

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักเสี่ยงโชคและผู้ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ก็คือ สวนนันทนา ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น สถานที่แห่งนี้เพิ่งเปิดให้เข้าชมได้ไม่นาน แต่กลับกลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ จังหวัดขอนแก่น ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางของภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น อาหารอีสานรสชาติเข้มข้น คาเฟ่สวยๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ทั่วเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ สวนนันทนา จังหวัดขอนแก่น ประวัติความเป็นมา ของ สวนนันธนา สวนนันทา ตั้งอยู่ที่ตำบลศิลา อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากตัวเมืองขอนแก่นภายในเวลาเพียง 20 นาที เมื่อจอดรถที่บริเวณข้างสวนแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังทางเข้าสวนด้านหน้าและเลือกหยิบดอกไม้ ธูป และเทียน ที่มีให้บริการอยู่ตรงนั้น เพื่อไปบูชาและถวายแด่พญานาคหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสวน โดยค่าบูชานั้นไม่ได้มีการกำหนด สามารถหยอดตู้ได้ตามความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคล ภายในสวนนี้ ผู้มาเยือนจะได้พบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้หลากหลายชนิด มีเส้นทางเดินที่พาดผ่านอุโมงค์ต้นไม้ ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเข้าสู่ดินแดนแห่งความสงบและธรรมชาติที่แท้จริง สถานที่นี้เหมาะสำหรับการผ่อนคลายและค้นหาความสงบในใจ ในบรรยากาศที่เขียวขจีและเงียบสงบซึ่งหาได้ยากในที่อื่นๆ ความน่าสนใจ ของ สวนนันธนา ที่เที่ยวขอนแก่นแห่งนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศเย็นสบายและเงียบสงบ แต่ยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย เมื่อคุณเดินไปตามเส้นทาง จะพบกับเนินกลางสวน ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนมักจะหยุดเพื่อถ่ายภาพและสัมผัสพลังศรัทธาที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ที่ตั้งของพญานาคใหญ่ 4 ตระกูลที่มีสีสันแตกต่างกัน และพระพุทธรูปสีทองปางนาคปรกที่ตั้งอยู่บนยอดเนินของสวน เริ่มต้นด้วยพญานาคที่ตั้งอยู่ที่ฐานของเนินเขา ทั้งสององค์มีขนาดใหญ่และมีลักษณะผิวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน พญานาคองค์แรกคือ […]

วันหยุดที่ว่างเปล่า หากใครกำลังมองหาสถานที่เพื่อสงบจิตสงบใจ หาที่หลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เราขอแนะนำให้ไปเที่ยว วัดปทุมวนาราม เพื่อไหว้พระและขอพรจากหลวงพ่อเสริม เพื่อเพิ่มบุญบารมีในชีวิตของคุณ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดในกรุงเทพมหานครเลยทีเดียวครับ หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดสวยในกรุงเทพฯ แห่งนี้ สามารถติดตามเราไปดูพร้อมกันได้เลยครับ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ประวัติความเป็นมา วัดปทุมวณาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดราชวรวิหารที่มีอายุนาน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2400 ในสมัยรัชกาลที่ 4 ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของสระนอก เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระเทพศิรินทราบรมราชินี พระมเหสี โดยได้รับพระราชทานชื่อว่า “วัดปทุม วนาราม” และมีการนิมนต์พระครูกล่ำมาเป็นเจ้าอาวาส พร้อมทั้งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูปทุมธรรมธาดา” อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านมักเรียกวัดนี้ว่า “วัดสระปทุม” ไฮไลท์ที่สำคัญของวัดคือการได้กราบสักการะหลวงพ่อพระเสริม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณที่มีศิลปะแบบล้านช้างเวียงจันทน์ ความน่าสนใจ ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “หลวงพ่อพระเสริม” มีเรื่องเล่าที่บอกกันว่า พระธิดาสามพระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้ร่วมแรงร่วมใจในการสร้างพระพุทธรูปประจำพระองค์จำนวน 3 องค์ เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา โดยตั้งชื่อพระพุทธรูปว่า พระสุก พระเสริม และพระใส ซึ่งพระสุกเป็นพระประจำพี่สาวคนโต พระเสริมเป็นพระประจำคนกลาง และพระใสเป็นพระประจำคนสุดท้อง การสร้างพระทั้งสามองค์มีพิธีกรรมที่ชาวบ้านร่วมมือกับวัดจัดขึ้น โดยมีการสูบเตาหลอมทองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน

วันนี้เราจะมาเอาใจสายบุญ สายชอบท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ ด้วยการพาคุณไป ไหว้พระ วัดโลกยสุธาราม อยุธยา ที่อยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่เองครับ ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเศษๆ ก็สามารถเช็คอินกรุงเก่าได้แล้ว บอกเลยว่าที่วัดแห่งนี้มีพระนอนที่งดงาม รวมถึงร่องรอยของประวัติศาสตร์ไทยที่มีแต่ความน่าสนใจ รอให้เราได้ไปชมกันอยู่ครับ วัดโลกยสุธาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดโลกยสุธราม เป็นวัดที่มีประวัติไม่ชัดเจน แต่คาดว่าได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะเมือง นอกจากนี้ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมงานบุญประจำปี เช่น การห่มผ้าพระนอนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และได้มีโอกาสปิดทองพระนอนองค์จำลอง พร้อมชมพระปรางค์โบราณรูปทรงคล้ายฝักข้าวโพด ประวัติความเป็นมาของวัด วัดโลกยสุธราม ตั้งอยู่บนเกาะเมืองในเขตมรดกโลก ประวัติความเป็นมาของวัดยังคงไม่ชัดเจน แต่จากการศึกษาสถาปัตยกรรมและศิลปะภายในกรมศิลปากรได้สันนิษฐานว่าวัดนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะเป็นในรัชสมัยของสมเด็จพระนครินทราธิราช โดยมีตำนานเล่าว่าวัดนี้ในอดีตเคยมีชื่อว่า วัดสุทธาวาส ในช่วงปลายยุคอยุธยา ชื่อของวัดนี้เริ่มถูกเรียกว่า วัดโลกสุธา จนกระทั่งหลังจากการเสียกรุงครั้งที่สอง มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนได้เรียกวัดนี้ว่า วัดโลกยสุธา เมื่อพระยาโบราณราชธานินทร์ได้เดินทางเข้ามาสำรวจและบันทึกชื่อวัดร้างแห่งนี้ว่า วัดโลกยสุธราม คำว่า ‘โลกย’ มาจาก ‘โลกิยะ’ ซึ่งหมายถึงของโลก ขณะที่ ‘สุธา’ หมายถึงน้ำอมฤต และ ‘อาราม’ หมายถึงวัด ดังนั้น ชื่อโลกยสุธารามจึงแสดงถึงวัดที่มีความหมายเหมือนน้ำอมฤตของโลก วัดโลกยสุธราม ได้เสื่อมโทรมมากขึ้น

วันหยุดนี้ ขับรถออกไปเที่ยวสระบุรีกันดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนแบบนี้ เหมาะสมมากที่จะไปเยือน น้ำตกจปร. ชื่ออาจจะไม่คุ้นหู แต่เชื่อเถอะว่าสถานที่นี้มีความสวยงามอลังการอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้วัดที่สวยงามอีกด้วย ดังนั้นอย่ารอช้า ลองตามเรามาสัมผัสความงามกันดีกว่าครับ น้ำตกจปร. จังหวัดสระบุรี ทำความรู้จักกับสถานที่ น้ำตก จปร ตั้งอยู่ในตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ใกล้กับวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ เป็นสถานที่ที่มีน้ำตกหินปูนซึ่งมีลักษณะคล้ายร่มที่กางออกและสายน้ำไหลจากด้านบนลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง นอกจากนี้ยังมีพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. รศ.115 ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงจารึกไว้ในระหว่างการเสด็จประพาสต้นอีกด้วยครับ ความน่าสนใจ น้ำที่ไหลออกมานั้นมีแหล่งกำเนิดจากต้นน้ำที่เกิดขึ้นจากใต้หิน ก่อนที่จะไหลลงสู่บริเวณด้านล่าง น้ำตกจปร แห่งนี้ แม้ว่าจะไม่เป็นที่นิยมเท่าแห่งอื่น ๆ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเลือกมาเที่ยวทั้งวัดและน้ำตก เนื่องจากอยู่ใกล้กันและสามารถเที่ยวในเวลาเดียวกันได้ครับ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง น้ำตกเจ็ดคต – สถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินป่าเบา ๆ เพื่อชมความงามของธรรมชาติตามเส้นทาง น้ำตกแต่ละแห่ง เช่น น้ำตกเจ็ดคตเหนือและน้ำตกเจ็ดคตใหญ่ มีความงดงามที่แตกต่างกันไป ในระหว่างการเดินทาง คุณจะได้พบกับเห็ดแชมเปญสีสันสดใสที่ขึ้นอยู่บนท่อนไม้ และผีเสื้อที่มีหลากหลายสีสัน ช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับการเดินป่า ใครที่ชื่นชอบธรรมชาติแบบอันซีนไม่ควรพลาดที่จะมาสัมผัสที่นี่ครับ วัดป่าสว่างบุญ – ที่นี่มีพระมหาเจดีย์ 500 ยอด ตั้งตระหง่านอยู่กลางวัด

วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลายคนตั้งใจที่จะไปกราบไหว้ในช่วงใกล้ปีใหม่ เพราะนี่คือเวลาที่ผู้มีจิตศรัทธาอย่างพวกเราจะออกตามหาวัดชื่อดังเพื่อเสริมดวงและขอพรเพื่อเริ่มต้นปีใหม่ให้ดีขึ้นครับ หากใครมีโอกาสเดินทางไปยังภาคเหนือในช่วงนี้ ขอแนะนำให้คุณแวะเวียนไปที่วัดสวยแห่งลำพูนนี้กันดีกว่าครับ เพราะวัดนี้ไม่เพียงแต่มีความงดงามเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์กับหลวงปู่ครูบาวงศ์อีกด้วยครับ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ประวัติและความเป็นมาของวัด วัดพระพุทบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่ใน ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอลี้ และยังเป็นสถานที่สำคัญของชาวปาเกอะญออีกด้วยครับ ที่บริเวณทางเข้าวัดมีอนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศา ตั้งอยู่ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญ เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนห้วยต้ม ภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์และความสวยงาม เช่น วิหารพระเมืองแก้ว ซึ่งองค์พระธาตุได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังเป็นที่บรรจุสรีระทิพย์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนาอีกด้วย ที่มาของชื่อ บ้านห้วยต้ม ชื่อ “บ้านห้วยต้ม” มีความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยในช่วงสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จมาโปรดสัตว์ในสถานที่ต่างๆ เมื่อทรงถึงบริเวณที่เรียกว่าดอยนางนอนจอมแจ้ง พระองค์ได้พบกับพญาเมืองเถิน พ่อฤาษี และหมอพรานอีก 8 คนที่กำลังหาบเนื้อสดมา เมื่อไม่มีสิ่งใดที่จะถวาย พระพุทธองค์จึงยังไม่ได้ฉัน พวกพรานจึงรวบรวมเนื้อทั้งหมดไว้ ในขณะเดียวกัน พวกละว้าที่อยู่ในพื้นที่นั้นได้นำต้มข้าวมาถวาย พระจอมไตรจึงทรงรับข้าวและฉัน พร้อมทั้งให้ศีลให้พร และประทับรอยพระบาทไว้ที่นั่น หลังจากเหตุการณ์นี้ พื้นที่ดังกล่าวจึงถูกเรียกว่า “ห้วยต้มข้าว” และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ห้วยต้ม” ในที่สุดนั่นเองครับ ความน่าสนใจของวัด

สำหรับ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ทของ วัดทางสาย วัดสวยที่ตั้งอยู่ริมทะเลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แห่งนี้ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวหัวหิน แต่ถ้าจะสนุกแค่กับการเล่นน้ำทะเล อาจจะดูเบื่อหน่ายไปสักหน่อย ดังนั้นลองออกมาเข้าวัดทำบุญ รับสิ่งดี ๆ กันที่วัดนี้ สักหน่อยก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี ใครที่สนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ลองตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ ไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ วัดทางสาย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำความรู้จักกับสถานที่ วัดที่ตั้งอยู่ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ศาสนา และนิเวศวิทยาอย่างดีเลยครับ พระพุทธรูปที่สำคัญภายในวัดนี้ ได้แก่ พระพุทธกิติสิริชัย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิในรูปแบบศิลปะคันธาระ โดยพระพุทธรูปนี้จะหันหน้าออกไปทางทะเล สิ่งที่เราไม่สามารถมองข้ามได้เลยก็คือ พระมหาธาตุเจดีภักดีประกาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระมหาเจดีย์เก้ายอด ซึ่งเป็นพระปรางค์จัตุรมุขที่สูงถึงสามชั้น มองเห็นได้จากระยะไกลทำให้เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจจริง ๆ ครับ นอกจากนี้ เรายังมีพระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาปักธงชัย ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่งดงามเป็นอย่างมาก เราสามารถมองเห็นชายหาดบ้านกรูด อ่าวที่กว้างขวาง และทิวมะพร้าวที่สวยงามได้อย่างชัดเจน นับเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกอย่างแท้จริงครับ ความน่าสนใจ

จุดชมวิวผาแดงหลวง – ภาคเหนือและอากาศหนาวถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัวอย่างยิ่ง แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปยังจังหวัดที่อาจไม่คุ้นชื่อกันนัก นั่นก็คือจังหวัดลำพูน ขอเริ่มต้นด้วยการบอกว่าที่นี่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะมีทิวทัศน์ที่งดงามและไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะที่ ผาแดงหลวง ซึ่งเปิดให้เข้าชมเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น จุดชมวิวผาแดงหลวง จังหวัดลำพูน ความเป็นมาของ ผาแดงหลวง ผาแดงหลวง หรือที่รู้จักกันในนาม จุดชมวิว-ผาแดงหลวง ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นหน้าผาที่สูงชันและโดดเด่นอยู่เคียงข้างแม่น้ำปิง ซึ่งมีลักษณะโค้งไปมาผ่านหุบเขา ความงามที่นี่ทำให้มันได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ความงดงามนี้ต้องการการดูแลรักษา เนื่องจากสถานที่นี้เปิดให้เข้าชมได้เพียงไม่กี่เดือนในแต่ละปี และนักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ทุกครั้งก่อนที่จะเข้าไปชมครับ ความน่าสนใจ ของ ผาแดงหลวง ถ้าพูดถึง ผาหลวงแดง ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยเลยครับ เพราะภาพของพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่ขึ้นเหนือภูเขาพร้อมกับแสงแดดนุ่มๆ ที่สะท้อนบนผิวน้ำนั้น ยิ่งทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีหมอกที่ลอยตัวต่ำระหว่างภูเขากับแม่น้ำปิงอีกด้วย ถือเป็นภาพที่ใครได้เห็นต้องประทับใจจนไม่สามารถลืมได้เลยครับ ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชมจะมีในฤดูหนาว ปีละครั้ง ระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคม โดยจะจำกัดจำนวนผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คนต่อวันครับ ส่วนจุดพักแรมจะมีเฉพาะที่ทุ่งกิ๊กเท่านั้นครับ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะพื้นที่กางเต็นท์นั้นกว้างขวางและปลอดภัย แถมยังมีโอกาสได้เห็นกวางตัวเป็น ๆ วิ่งเล่นอยู่รอบ ๆ เต็นท์ด้วยนะครับ การเดินทาง ไปยัง

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ อุโมงค์รถไฟขุนตาล ในจังหวัดลำพูนกันอยู่บ้าง เพราะนี่คือ “อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย” และยังเป็นอุโมงค์ที่มีความงดงามพร้อมประวัติศาสตร์ที่ยาวนานซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักจะไปถ่ายภาพกัน มาดูกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวในลำพูนแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง เรามาค้นหาความสนุกกันเถอะครับ อุโมงค์รถไฟขุนตาล จังหวัดลำพูน อุโมงค์ขุนตาน ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีทั้งหมด 7 อุโมงค์ในประเทศของเรา โดยมีความยาวถึง 1,352.10 เมตร และยังตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล บนเส้นทางรถไฟสายเหนืออีกด้วย ความน่าสนใจ บริเวณทางเข้าของอุโมงค์นั้นสร้างขึ้นด้วยอิฐสีแดง และที่นี่ถือเป็นอุโมงค์เดียวในประเทศไทยที่มีตราครุฑสีแดงตั้งอยู่เหนือทางเข้าด้วยครับ งานก่อสร้างทั้งหมดได้รับการควบคุมโดยนายช่างชาวเยอรมันชื่อ เอมิล ไอเซนโฮเฟอร์ ใช้เวลาทั้งสิ้นถึง 14 ปีในการสร้างครับ โดยคนงานที่ทำการขุดเจาะอุโมงค์จะต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอีสานและชาวไทยใหญ่ครับ ด้านหน้าของอุโมงค์มีศาลเจ้าพ่อขุนตาน และยังมีสถูปกระดูกของมิสเตอร์ เอมิล ไอเซนโฮเฟอร์ วิศวกรชาวเยอรมันที่เป็นผู้สร้างอุโมงค์นี้ขึ้นมา นอกจากนี้ทางทิศเหนือจะมีสถานีรถไฟขุนตาน ซึ่งถือเป็นสถานีที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 578 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เมื่อคุณยืนอยู่หน้าของอุโมงค์ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นของเตาเผาและละอองความเย็นที่แผ่ออกมาจากอุโมงค์นั้นด้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟคือ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวที่สามารถเดินทางโดยรถไฟไปถึงได้ นอกจากนี้ยังสามารถเดินขึ้นยอดดอยขุนตาลจากจุดนี้ได้อีกด้วยครับ เมื่อขึ้นไปด้านบนจะพบกับ วัดขุนตาน และศาลาเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ที่นั่น อากาศที่นี่สดชื่นและเย็นสบายมาก ๆ เลยครับ หากมีเวลาสักนิดแนะนำให้ลองมากางเต็นท์และเดินป่า

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ต้องการทำบุญในเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี คงต้องยกให้ วัดพระใหญ่ เกาะสมุย ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการทำบุญและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ตั้งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามได้อีกด้วย ใครที่สนใจอยากได้รายละเอียด ที่เที่ยวทำบุญ แห่งนี้ ลองตามเราไปชมพร้อม ๆ กันได้เลยครับ วัดพระใหญ่ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำความรู้จักกับสถานที่ วัดพระใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จุดเด่นของวัดคือ พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เป็นพระพุทธปางมารวิชัยและเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ด้วยครับ ทั้งชาวเกาะสมุยและนักท่องเที่ยวมักจะพากันเดินทางมาเพื่อสักการะพระใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังได้ชมวิวของเกาะพะงัน รวมถึงหาดบ่อผุดจากจุดสูงอีกด้วยครับ โดยที่ตั้งของ วัดพระใหญ่ จะตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า เกาะฟาน ในอดีต เกาะฟานเคยถูกล้อมรอบด้วยน้ำทะเล แต่ชาวบ้านได้สร้างสะพานไม้เพื่อเชื่อมโยงระหว่างเกาะฟานกับเกาะสมุย อย่างไรก็ตาม สะพานไม้ไม่ได้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานนัก ชาวบ้านจึงได้ร่วมมือกันสร้างแนวสันเขื่อนหินขึ้นมาอย่างถาวร และมีการพัฒนาถนนเชื่อมต่อจนถึงปัจจุบันนั่นเองครับ ความน่าสนใจ ของ พระพุทธโคดม (พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้) ความสำคัญของ วัดพระใหญ่ อยู่ที่การประดิษฐาน พระใหญ่ หรือ

ใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยว สุราษฎร์ธานี ตามมาเลยครับ เราจะพาทุกคนไปสัมผัสธรรมชาติ ณ ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด ในหนึ่งวัน รับรองว่าทุกคนจะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน เพราะน้ำในบ่อใสมาก สามารถมองเห็นทรายและปลาว่ายอยู่ในบ่ออย่างชัดเจน ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมสะพายเป้แล้วตามเราไปดูกันเลยครับ ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำความรู้จักกับสถานที่ ที่เที่ยวสุราษฎร์ธานีที่เราได้มาเยือนในวันนี้คือ ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม หากใครที่สนใจจะมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ขับรถตามเส้นทางหลักไปเรื่อยๆ จนถึงกิโลเมตรที่ 44 จากนั้นก็ให้ขับตามป้ายอีกประมาณ 10 กิโลเมตรก็จะถึงที่ครับ ใครที่รู้สึกกังวลว่าจะหลงทางหรือกลัวว่าจะไม่เจอทาง บอกเลยว่าไม่ต้องวิตกกังวล! ตลอดเส้นทางนั้นมีป้ายบอกทางอยู่เป็นระยะๆ นอกจากนี้ ลานจอดรถที่นี่ก็กว้างขวาง มีพนักงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีร้านค้าและร้านอาหารจากชาวบ้านในพื้นที่ให้บริการอย่างมากมาย รู้สึกเหมือนอยู่ในตลาดนัดเลยทีเดียว ความน่าสนใจ ก่อนที่คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของบ่อน้ำใสในป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ควรทำความเข้าใจกฎระเบียบที่นี่ให้ชัดเจนก่อน เราจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ สิ่งที่ชาวบ้านห้ามอย่างเคร่งครัดคือ ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภทเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ กระเป๋าขนาดใหญ่หรือแม้แต่ขนาดกลางก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าไปเช่นกัน สำหรับใครที่เป็นห่วงของมีค่า ทางชุมชนมีบริการจุดรับฝากของ (ค่าธรรมเนียมประมาณ 10 บาทต่อ 1 ตู้) เพื่อความอุ่นใจอีกด้วย จากจุดที่เป็นทางเข้าสำหรับเข้าไป เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกสักระยะหนึ่ง ประมาณไม่เกิน