Author name: admin

วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจ ถ้ำ กันนะครับ แต่เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในทะเล ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ ถ้ำมรกต สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดตรังนั่นเองค่ะ จะรออะไรอยู่ล่ะคะ ไปดำน้ำและสัมผัสความงดงามของ ที่เที่ยวตรัง แห่งนี้กันดีกว่าครับ แล้วจะรู้ว่าความสวยงามแบบสุด ๆ นั้นเป็นอย่างไร ถ้ำมรกต ที่เที่ยวตรัง ความน่าสนใจ ถ้ำ-มรกต ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวทะเล ตั้งอยู่ในตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ของถ้ำทะเลที่มีความสวยงามและน่าประทับใจมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงถ้ำได้จากปากทางเข้าที่เป็นโพรงเล็กๆ ทำให้ต้องคำนึงถึงช่วงเวลาของน้ำขึ้นน้ำลง เนื่องจากในช่วงที่น้ำลด โพรงนี้จะสูงกว่าระดับน้ำ ทำให้เรือเล็กสามารถลอดเข้าไปได้ แต่หากช่วงน้ำขึ้น ก็ต้องว่ายน้ำเพื่อเข้าสู่ภายในถ้ำครับ ถ้ามองจากภายนอก ถ้ำมรกด จะเห็นแสงสะท้อนจากน้ำทะเลภายในถ้ำ ทำให้เกิดสีเขียวมรกตที่สวยงาม เป็นเหตุผลที่ชื่อถ้ำนี้เกิดขึ้น โดยเราจะต้องเข้าไปในถ้ำประมาณ 80 เมตร เพื่อไปยังปากถ้ำฝั่งตรงข้าม ข้าจัดแถวตามคำแนะนำของผู้นำทาง จับกุมคนที่อยู่ข้างหน้าให้แน่นหนา มิฉะนั้นอาจพลัดหลงได้ เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาเราจะได้เห็นหาดทรายสีขาวที่ตั้งอยู่กลางหน้าผาสูงชันด้านใน เป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจเลยครับ อีกทั้งแสงแดดส่องเข้ามาในมุมที่เหมาะเจาะ ทำให้ทั้งเกาะ และเวิ้งถ้ำเปล่งประกายเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม ราวกับงานศิลปะจากธรรมชาติที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้ชื่นชม เรียกว่าสวยงามสุด ๆ เลยก็ไม่ผิดครับ ความสนุกสนานที่นี่มีมากมาย […]

อีกหนึ่งสถานที่เดินป่าในจังหวัดตาก ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้ขึ้นไปพิชิตเพียงปีละครั้งเท่านั้น และเป็นความท้าทายที่น่าสนใจสำหรับหลายคน นั่นก็คือ ดอยทูเล บอกเลยว่าทิวทัศน์ด้านบนจะช่วยให้ทุกคนสามารถฝ่าฟันความชันและความเหนื่อยล้าไปได้ครับ หากอยากรู้ว่าความงดงามจะเป็นเช่นไร ก็ตามมาชม ที่เที่ยวตาก แห่งนี้กันได้เลยครับ ดอยทูเล จังหวัดตาก ความเป็นมาของสถานที่ ดอย-ทูเล ตั้งอยู่ในตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มีความสูงถึง 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในจังหวัดตาก เส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขามีระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 4 – 7 ชั่วโมง ระหว่างการเดินทางขึ้นเขา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทุ่งหญ้าสีทองและวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาอย่างเต็มที่ครับ ชาวปกาเกอะญอที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ จะเรียกภูเขานี้ว่า ทูเลโค๊ะ ซึ่งแปลว่า “ภูเขาสีทอง” ตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคมของทุกปี ทุ่งหญ้าสีเขียวจะเปลี่ยนไปเป็นทุ่งสีทองสวยงามท่ามกลางทะเลหมอก และอากาศก็จะเย็นสบาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่นิยมสำหรับการกางเต็นท์นอนเพื่อดูดาวและชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินครับ การเดินทาง ขึ้นไปบน ดอย-ทูเล เส้นทางการเดินขึ้นดอย-ทูเลจะมีทั้งพื้นที่ราบและความชันสลับกันไป ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวที่ดีเพื่อให้ไม่รู้สึกเหนื่อยล้ากลางทาง หากไม่เตรียมตัวให้พร้อมอาจจะต้องยอมแพ้ในระหว่างทางได้เลย แต่เราสามารถเดินขึ้นไปได้โดยไม่ต้องแบกสัมภาระหนัก ๆ เพราะมีบริการลูกหาบให้เช่า อย่างไรก็ตาม ควรเก็บเงินค่าบริการไว้กับตัวตลอดเวลาเพื่อความสะดวกครับ ความน่าสนใจ การชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งและสวยงามมากๆ แสงแรกของวันค่อยๆ ส่องสว่างไปทั่วทะเลหมอกและภูเขาที่อยู่รอบข้าง

ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่เต็มไปด้วย ทะเลหมอก ภูเขา และวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ต้องไม่พลาดที่จะตามเรามาที่ เลอกวาเดาะ แห่งนี้ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในตากที่เราจะแนะนำวันนี้นั้นมีความพิเศษอย่างแน่นอน กับภูเขาที่มีชื่อเสียงในด้านความงดงาม นั่นก็คือ เลอกวาเดา ถ้าคุณยังไม่เคยได้ยินชื่อที่นี่มาก่อน หรืออาจจะเพียงแค่เคยได้ยินผ่าน ๆ ขอแนะนำให้ลองมาสัมผัส ที่เที่ยวตาก แห่งนี้ด้วยตัวเองดูสักครั้งครับ เลอกวาเดาะ จังหวัดตาก ความเป็นมาของสถานที่ เลอกวาเดะ ตั้งอยู่ในตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สถานที่นี้ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวบ้านในท้องถิ่น และยังมีเจดีย์ที่บรรจุสารีริกธาตุอยู่บนยอดเขาอีกด้วย ชาวบ้านมักจะขึ้นเขาเพื่อสักการะและกราบไหว้เจดีย์ที่ตั้งอยู่บนยอด ซึ่งทำให้ เลอกวาเดะ ได้รับฉายาว่า ขุนเขาแห่งศรัทธา ส่วนชื่อ เลอกวาเดา มาจากภาษาปกาเกอะญอ แปลว่า เขาดูวิว ก่อนที่เราจะไปถึงยอดเขานั้น เราจำเป็นต้องแวะที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย เพื่อทำการลงทะเบียนขึ้นเขาก่อน ความน่าสนใจ บนยอดภูเขา เลอกวาเดะ คุณจะได้ชมวิวที่สวยงามแบบ 360 องศาเลย การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความสามารถและความแข็งแรงของแต่ละคนค่ะ โดยจุดเริ่มต้นในการเดินป่าขึ้นเขานี้คือ วัดป่าเกร๊ะคี นั่นเองครับ ต้องขอแจ้งให้ทราบว่า

อากาศร้อนระอุระดับเกือบ 40 องศาแบบนี้ มาร่วมกันค้นหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนโดยไม่ต้องกลัวเหงื่อกันเถอะ กับ 5 ที่เที่ยวคลายร้อน จุดหมายปลายทางใกล้กรุงเทพ ที่สามารถหลบความร้อนและสนุกสนานได้โดยไม่ต้องเผชิญกับแดดจัด มาดูสถานที่ที่ช่วยคลายร้อนกันเถอะ 5 ที่เที่ยวคลายร้อน 1. FROST Magical Ice Of Siam พัทยา ชลบุรี ที่เที่ยวคลายความร้อนใกล้กรุงเทพฯ ต้องมาที่ Frost Magical Ice of Siam ในพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่นี่มีโดมประติมากรรมน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีอุณหภูมิอยู่ที่ -15 องศาเซลเซียส สัมผัสความหนาวเย็นได้อย่างเต็มที่แน่นอน ภายในพื้นที่จัดแสดงมีประติมากรรมน้ำแข็งที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ทั้งวรรณกรรมไทยและสถานที่สำคัญของประเทศไทย ให้ผู้เข้าชมได้เดินดูและถ่ายภาพสวยๆ กันอย่างจุใจ 2. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา บางแสน ชลบุรี ไปท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กันเถอะ ที่ไหนไม่ร้อนมาก นั่นคือที่ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา ค่ะ สำหรับการเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบสบายๆ ที่สามารถไปเช้าเย็นกลับใน One Day Trip ไม่ไกลจากเมือง แถมยังได้สัมผัสกับบรรยากาศใต้ทะเลที่งดงาม ให้เราได้เพลิดเพลินกับความสวยงามใน อุโมงค์ปลา

ร่างกายโหยหาทะเล แต่วันหยุดมีไม่กี่วัน เลยขอชวนไปเที่ยวชิลๆ ใน 1 วันที่เกาะแสมสาร สัตหีบ ทริปวันเดียวที่ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ บอกเลยว่าน้ำใส ปะการังงดงาม มีกิจกรรมให้เลือกทำเพียบ จะชวนคุณแฟน หรือจับมือเพื่อนไปเที่ยวกันทั้งกลุ่ม ก็ฟินสุดๆ ไปเลย! เกาะแสมสาร สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เกาะ-แสมสาร นั้นเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับการเดินทางไปเที่ยวเกาะ-แสมสาร เราจำเป็นต้องจองตั๋วเรือล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ของฐานทัพเรือสัตหีบก่อนครับ การเดินทางไปเกาะ-แสมสาร และ ค่าเรือไปยังเกาะ จุดหมายแรกที่เราต้องไปก่อนที่จะข้ามไปยังเกาะ-แสมสารคือ จุดจำหน่ายตั๋วเรือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ที่นี่จะมีบริการขายตั๋วเรือไปยังเกาะขามและเกาะ-แสมสาร หากใครยังไม่ได้ทำการจองล่วงหน้า ก็สามารถซื้อบัตรได้เลยครับ โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชมเกาะไม่เกิน 300 คนต่อวัน จะเปิดให้รับบัตรคิวตั้งแต่ 06.00 น. โดย 1 บัตรคิวใช้ได้สำหรับ 1 คนเท่านั้น และจะเริ่มเรียกคิวเพื่อซื้อตั๋วตั้งแต่ 08.00 น. ครับ ค่าบริการสำหรับเรือไป-กลับเกาะ-แสมสารมีดังนี้: ผู้ใหญ่ 300

พิธีกรรมฮินดู ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคชมพูทวีปและเป็นพื้นฐานของลัทธิศาสนาต่างๆ ในอินเดีย ศาสนาพราหมณ์ เป็นศาสนาของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า อารยัน หรือ อริยกะ ซึ่งหมายถึง ผู้เจริญ เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ที่ชนะสงครามกับชาวพื้นเมืองและได้ปกครองชาวพื้นเมืองมาโดยตลอด พิธีกรรมฮินดู ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูถือว่าพิธีกรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญของศาสนา เนื่องจากชาวฮินดูในทุกวรรณะมีขนบธรรมเนียมและประเพณีที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งประเพณีเหล่านี้มีทั้งที่เป็นของเฉพาะวรรณะและส่วนรวมที่ทุกวรรณะจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้ พิธีกรรมและข้อปฏิบัติของชาวฮินดูสามารถจัดแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลัก ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ชาวฮินดูใช้ในการดำรงชีวิตและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาของตน 1. เทศกาลคเณศจตุรถี ถือเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการบูชาพระพิฆเนศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันแรม 4 ค่ำ เดือน 9 และวันแรม 4 ค่ำ เดือน 10 วันนี้ถือเป็นวันที่พระพิฆเนศประสูติ เชื่อว่าพระองค์จะลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพรอันสูงสุดแก่ผู้ศรัทธา เทศกาลนี้มีพิธีบูชาและเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในอินเดียและทั่วโลก มีการสร้างเทวรูปพระพิฆเนศขนาดใหญ่สำหรับพิธีบูชา จากนั้นจะมีการแห่เทวรูปไปทั่วเมืองแล้วมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ถนนทุกสายคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาชมขบวนแห่องค์เทวรูปนับร้อยนับพัน ผู้ศรัทธาทุกคนสวมชุดส่าหรีสีสันสดใส ขบวนแห่จะสิ้นสุดที่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เช่น แม่น้ำคงคา แม่น้ำสรัสวตี ฯลฯ แล้วทำพิธีลอยเทวรูปลงสู่แม่น้ำหรือทะเล ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2538 เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความฮือฮาไปทั่ว นั่นคือปรากฏการณ์ที่เทวรูปดูดนมสด ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย เหตุการณ์นี้ตรงกับช่วงเทศกาลคเณศจตุรถี

พิธีศีลล้างบาป ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับบาปกำเนิด ซึ่งเกิดจากการกระทำของอาดัมและเอวาในสวนเอเดน ดังนั้น การจะเป็นคริสตชนต้องผ่าน พิธีศีล-ล้างบาป เพื่อชำระร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ โดยการรับศีลล้างบาปนี้ถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมายของพระศาสนาจักร พิธีศีลล้างบาป คืออะไร แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้กล่าวถึงความหมายของ “ศีลล้างบาป” โดยคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อมว่าเป็นหนึ่งในศีลศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของคริสตศาสนา ซึ่งต้องมีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่สำคัญ ได้แก่ การรดน้ำบนศีรษะของผู้ที่รับศีล พร้อมกับการสวดภาวนาว่า “ข้าพระเจ้าล้างท่าน เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต” การกระทำนี้เป็นสัญลักษณ์ของการชำระล้าง เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกไป ซึ่งหมายถึงการชำระล้างทั้งร่างกายและจิตวิญญาณให้ผู้รับศีลปราศจากบาปและความผิดต่างๆ ทำให้สามารถมีชีวิตรอดพ้นจากความตายในด้านวิญญาณ (แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ, ม.ป.ป. : ออนไลน์) คำว่า “ศีลล้างบาป” (Baptism) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก “bapto”, “baptizein” หรือ “baptein” ซึ่งหมายถึง “การจุ่มน้ำ” พิธีการทำศีลล้างบาปของคริสตชนได้รับแรงบันดาลใจจากพิธีล้างในวัฒนธรรมกรีก ซึ่งต่อมาพัฒนามาเป็นพิธีล้างในศาสนายิว และยอห์นได้ทำการปรับให้เป็นรูปแบบของตนเอง จนกระทั่งมีการพัฒนาและปรับปรุงโดยพระศาสนจักร จนกลายเป็นศีลล้างบาปอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน พระคัมภีร์กล่าวถึงพิธีล้างบาปในหลายลักษณะ พระเยซูเจ้าได้รับการล้างจากยอห์นที่แม่น้ำจอร์แดน นักบุญเปาโลให้ความสำคัญกับการล้างบาปโดยเชื่อมโยงกับการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า ในยุคแรกเริ่มของพระศาสนจักร (ศตวรรษที่ 1-3) มีเอกสารหลายฉบับที่บันทึกถึงขั้นตอน

ปักหมุด 5 งานตรุษจีนประจำปี 2568 จาก 9 จังหวัดทั่วไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ, งานตรุษจีนภูเก็ต, สงขลา, นครสวรรค์ และโคราช โดยจะงานจัดขึ้นตั้งแต่วันไหนบ้าง และสถานที่จัดงานแต่ละแห่งคือที่ใด เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่หลายคนในชุมชนไทยเชื้อสายจีนต่างตั้งตารอคอยกำลังจะมาถึงในไม่ช้า เปิดพิกัด 5 งานตรุษจีน 5 จังหวัดทั่วไทย งานตรุษจีนภูเก็ต ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต จัดกิจกรรมและโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาลตรุษจีนภายใต้ธีม ‘Happy Chinese New Year 2025’ ซึ่งมีการนำเสนอ ‘แองเจิ้ลบอย’ (Angel Boy) ผลงานจากสองศิลปินชาวเกาหลี ยุน คีซอค และมิน คยองซุน จากสังกัด DOTOY (DO IT YOURSELF TOY) มาร่วมสร้างสรรค์ไอเทมพิเศษสำหรับเทศกาลตรุษจีน งานนี้จะมีขึ้นในวันที่ 29 มกราคม เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. ณ ลานกิจกรรมเดอะเบย์

นอกจากกาญจนบุรีจะมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงามมากมายแล้ว ยังมี วัดโพธ์เย็น วัดจีนที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ด้วยครับ ในช่วงตรุษจีนปี 2568 นี้ เราขอแนะนำให้ไปเช็คอินที่วัดจีน วัดโพธิเย็น กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นวัดจีนแห่งแรกในประเทศไทย มาสักการะพระ เสริมดวงรับปีใหม่กันให้เฮง ๆ ปัง ๆ และที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ลองไปสักการะสักครั้ง ใครที่สนใจ ที่เที่ยวกาญจนบุรี แห่งนี้ ลองตามเราไปดูได้เลยครับ วัดโพธ์เย็น จังหวัดกาญจนบุรี ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดไช้ 新正如意 新年发财 เทศกาลตรุษจีน 2567 นี้ มาร่วมไหว้พระขอพรเพื่อเสริมดวงให้เฮงตลอดปี ที่วัดจีนเก่าแก่ในตลาดลูกแกกันครับ ประวัติและความเป็นมา วัดโพธิ์เย็น (普仁寺) เป็นวัดจีนในนิกายมหายาน ตั้งอยู่บริเวณตลาดลูกแก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นวัดจีนแห่งแรกในประเทศไทยที่มีพระอุโบสถในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน พร้อมพัทธสีมาครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้สามารถทำพิธีอุปสมบทพระภิกษุจีนในไทยได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปบวชที่ประเทศจีน วัดโพธิ์เย็น อยู่ไปทางทิศเหนือของตลาดลูกแก โดยมีภูเขาลูกหนึ่งที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อ “เขาพระแท่น” เนื่องจากมีพระแท่นตั้งอยู่บนภูเขานั้น โดยมีพระปฏิมากรองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ หันหน้ามาทางต้นโพธิ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาต่างอาศัยร่มเงาของต้นโพธิ์ใหญ่นั้นเพื่อพักผ่อนและคลายความเหนื่อยล้า พร้อมกับรับลมเย็นสดชื่นจากแม่น้ำ สถานที่นี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า

วัดเทวสังฆาราม –  กาญจนบุรี นั้นขึ้นชื่อได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องบอกว่ามีทั้งธรรมชาติสวย ๆ และวัดงาม ๆ ที่โด่งดังมาก ๆ อยู่หลายต่อหลายวัดเลยครับ ซึ่งคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก แต่ว่ายังมีอีกหนึ่งวัดประวัติศาสตร์ ที่ได้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีของเมืองกาญฯ แห่งนี้ นั่นก็คือ วัด เทวสังฆาราม นั่นเองครับ หวยสด ว่าเรารีบไปดูกันเลยดีกว่า ว่าวัดนี้จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้างครับ เที่ยวไหว้พระเมืองกาญฯ วัดเทวสังฆาราม วัดงามที่สายบุญไม่ควรพลาด ประวัติและความเป็นมา ของ วัดเทวสังฆราม วัดเทวสังฆราม หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดเหนือ นั้นเป็นวัดสวยเมืองไทยของ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ อยู่ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย โดยมีการจัดตั้งวัดแห่งนี้ขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2384 ซึ่งวัดเทวฯ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 25 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2505 วัดแห่งนี้ค่อนข้างจะมีความเก่าแก่และโบราณเป็นอย่างมาก และถือได้ว่าเป็นอีกวัดหนึ่งของเมืองกาญจนบุรีที่ต้องนับว่ามีความสำคัญต่อทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากเลยครับ โดยมีการคาดว่าวัดแห่งนี้น่าจต้องะมีอายุมาแล้ไม่ต่ำกว่า 200 ปี โดยจะมี ท่านสมภารเสี่ยง นั้นเป็นผู้สร้างวัดเทวฯ ขึ้น โดยภายในวัดนั้นจะมีพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นสถานที่ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ท่านทรงมาบรรพชาและอุปสมบทนั่นเองครับ ความน่าสนใจของวัด ซึ่งทาง