Uncategorized

ใครที่กำลังมองหา ที่เที่ยวหน้าฝน หรือคนที่ยังไม่รู้ว่าหน้าฝนนี้จะไปเที่ยวไหนดี ขอให้ตามมาทางนี้เลยจ้า เพราะวันนี้เราได้รวบรวม ที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน จากทั่วประเทศมาแนะนำกันแล้วครับ บอกได้เลยงานนี้รับรองว่าสายฝนไม่สามารถทำให้คุณต้องนั่งเหงาหงอยอยู่แต่ในบ้านอย่างแน่นอน ว่าแต่จะมี ที่ที่ยวเมืองไทย ต้อนรับความชุ่มฉ่ำอยู่ที่ไหนบ้างนั้น ลองไปชมกันเลย 5 สถานที่เที่ยวหน้าฝน 2567 1. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ เลยก็ว่าได้ครับ สำหรับ “ภูทับเบิก” สถานที่ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล มีระยะห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร หากไปตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือถ้าห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 90 กิโลเมตร โดยมีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร ถือว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามมาก ๆ ด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา และอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งสภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี ยิ่งในตอนเช้าจะมีกลุ่มเมฆและทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ 2. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน นี่คือฉายาที่ใคร ๆ ต่างก็ตั้งให้กับวังน้ำเขียวทุกครั้งที่ได้มาเยือน เพราะที่ท่องเที่ยวโคราชแห่งนี้ นี่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก […]

วันนี้เราจะพาไปเที่ยวไหว้พระกันที่ วัดพระพุทธบาทดอยโล้น ซึ่งอยู่ในดอยแห่งหนึ่งของ จังหวัดตาก ดอยแห่งนี้มีความสูงไม่มาก จึงสามารถที่จะเดินทางขึ้นไปได้โดยง่าย โดยการใช้รถยนต์ส่วนตัวครับ ซึ่งดอยนี้มีชื่อว่า “ดอยโล้น” นั่นเอง สิ่งที่ทำให้ดอยโล้นแห่งนี้มีความแตกต่างจากดอยทั่ว ๆ ไป ตรงไหน ถ้าอยากรู้ลองตามเราไปดู วัดสวยจังหวัดตาก แห่งนี้กันเลยดีกว่าครับ วัดพระพุทธบาทดอยโล้น จังหวัดตาก วัดพระพุทธบาทดอยโลน เป็นวัดป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ต้องบอกเลยว่ามีบรรยากาศที่เงียบสงบ ซึ่งเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและเจริญสติภาวนาอย่างมาก และถ้าเมื่อไปถึงวัดแห่งนี้แล้ว ต้องไม่ลืมเข้าไปกราบไหว้ พระมหาสากะยะมุณีศรีสรรเพชร เด็ดขาดครับ เพราะเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่มาก ๆ อีกทั้งยังมีลักษณะงดงามเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยประดิษฐานอยู่บนเนินเขาแห่งนี้ และนอกจากนี้ก็ยังมี รอยพระพุทธบาทซึ่งมีมณฑปครอบเอาไว้ โดยตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถขึ้นไปกราบไหว้สักการะได้ด้วยเช่นกัน ความน่าสนใจของวัด สถานที่แห่งนี้ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติ บริเวณสองข้างทางขึ้นไปบนภูเขา ก็จะมีแมกไม้นานาชนิดอยู่เต็มไปหมด ทั้งยังมีก้อนหินก้อนใหญ่ที่เขียนหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้ชาวพุทธศาสนิกชนทุกคน “ทำคุณงามความดี” สำหรับบันไดที่ใช้ขึ้นไปบนดอย นั้นไม่ชันจนเกินไป มีราวบันไดไว้ให้จับตลอดทาง มีศาลาสำหรับพักเหนื่อยอยู่เป็นระยะ ๆ เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้สูงอายุที่เดินทางขึ้นไปแน่นอนครับ นอกจากนี้ หากเราขึ้นไปจนถึงบนยอดดอยโล้น ก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของทิวเขาเป็นสีน้ำเงิน เมื่อถ่ายภาพออกมาจะมีความสวยมากเลยทีเดียว 1. รอยพระพุทธบาท รอยพระพุทธบาท บนเขาดอยโล้นแห่งนี้ ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ จึงมักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะและขอพรกันเป็นประจำ

อุทัยธานี เป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย หากยังไม่อิ่มใจกับการท่องเที่ยว และอยากเพิ่มความสุขทางใจ เราขอแนะนำให้ไปที่นี่ “วัดผาทั่ง” ซึ่งมีหลวงพ่อโตที่มองเห็นได้จากถนนเส้นเดียวกับที่จะไปน้ำตกปางสวรรค์ หากคุณไปเที่ยวน้ำตกปางสวรรค์มาแล้วก็ไม่ควรพลาด วัดดังอุทัยธานี แห่งนี้เป็นอันขาดครับ วัดผาทั่ง จังหวัดอุทัยธานี วัด ผาทั่ง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ โดยวัดจะตั้งอยู่ที่ 81 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี วัดดังเมืองอุทัย แห่งนี้หากมองจากถนนสายหลัก เราก็จะสามารถมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี จนชวนให้อยากแวะมายังวัดแห่งนี้ ซึ่งทางเข้านั้นจะเป็นถนนในหมู่บ้าน และต้อง ผ่านศูนย์ทอผ้าโบราณบ้านผาทั่ง ขับไปตามเส้นทางเลี้ยวซ้ายจะพบกับวัดผาทั่ง ประวัติและความเป็นมาของวัด ประวัติและความเป็นมาของทาง วัด ผาทั่ง การก่อตั้งในปีใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด แต่เดิมตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำเชิงสะพานเข้าหมู่บ้าน ซึ่งคับแคบ และเป็นที่ลุ่ม ทำให้น้ำท่วมอยู่เรื่อยๆ จนในปี พ.ศ. 2471 ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันย้ายวัดไปอยู่ที่วัด ผาทั่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง” อีกด้วย ความน่าสนใจของวัด ภายในบริเวณวัดนั้นมีความร่มรื่นอย่างมาก ก่อนที่เราจะเข้าไปสักการะหลวงพ่อโต ที่ด้านหน้าของทางเข้าจะมีรูปปั้นพญานาคสองข้างทั้งซ้ายและขวา โดยจะทอดยาวไปจนถึงลานด้านในที่ตั้งประดิษฐานหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ซึ่งถ้าเราสังเกตดี ๆ ก็จะเห็น มกร (มะกะระ) สัตว์ป่าหิมพานต์ตามตำนานชาวล้านนา ซึ่งเป็นศิลปะของทางภาคเหนือที่กำลังกลืนกินตัวพญานาคอยู่ เรีกยว่าเป็นศิลปะที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของวัดแถบภาคเหนือที่ไม่เหมือนกับที่ไหนและหาชมได้ยากอีกด้วยครับ เปรียบเสมือนเป็นบันไดทอยาวนำสายตาไปสู่พระพุทธรูปหลวงพ่อโตที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อโตวัด ผาทั่ง

วัดภูทอก บึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวของ จังหวัดบึงกาฬ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เรียกได้ว่าเป็น วัดสวยเมืองไทย แต่งานนี้คงจะต้องขอบอกไว้กันก่อนว่า คนที่จะมาเที่ยวที่นี่ได้นั้น จะต้องเป็นคนที่ไม่กลัวความสูง หรือไม่ก็จะต้องมีความกล้าแบบสุดๆ เลยนะครับ เพราะว่า เว็บหวยสด จะพาไปวัดที่อยู่บน ภูทอก นั่นก็คือ วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ซึ่งวัดที่มีทางเดินริมหน้าผา สุดจะหวาดเสียว เป็นจุดเที่ยวที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิตสำหรับสายบุญที่เป็นสายลุยครับ สำหรับ วัดดังบึงกาฬ แห่งนี้ พิกัดสายลุยทำบุญ วัดภูทอก บึงกาฬ ภูทอก นั้นเป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาศรีวิหาร หรือที่เรียกกันว่า วัดภูทอก ได้ตั้งอยู่ภายในเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จังหวัดบึงกาฬ โดยวัดแห่งนี้มี พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา ซึ่งคำว่า ภูทอก ถ้าแปลในภาษาอีสานนั้น แปลได้ว่า ภูเขาโดดเดี่ยว และที่นี่จะมีภูเขาอยู่ด้วยกัน 2 ลูก นั่นก็คือ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย สำหรับส่วนที่สามารถเข้าชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่นั้นจะอยู่ห่างออกไป และปัจจุบันยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครับ  จุดเด่นของ วัดภูทอก นั่นก็คือ สะพานไม้ และบันไดรอบ ๆ ของภูทอก ที่จะใช้แค่เพียงบันได เพื่อเดินวนไปมา ในแบบ 360 องศา กันเลยทีเดียวครับ โดยมีทั้งหมดมากกว่า 7 ชั้น ซึ่งใช้เวลาในการสร้างนานถึง 5 ปี โดยบันไดแต่ละชั้นก็จะมีความแตกต่างกันไป ตั้งแต่ชั้น

หากพูดถึง ลำพูน แล้ว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่มี วัดดัง พร้อมด้วยประวัติศาสตร์และร่องรอยของอารายธรรมมายาวนานนับพันปี เริ่มตั้งแต่สมัย นครหริภุญชัย เลยก็ว่าได้ครับ และถ้ามีใครถามถึงวัดเก่าแก่ที่ได้อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างเนิ่นนาน หนึ่งในนั้นก็จะต้องมี วัดจามเทวี วัดดัง วัดที่ต้องไป ประจำ จังหวัดลำพูน ที่มี พระเจดีย์เหลี่ยม ซึ่งกลายสัญลักษณ์ของวัดที่มีเอกลักษณ์ไปแล้ว และยังได้เป็นต้นแบบให้แก่สถาปัตยกรรมล้านนาไทยในยุคสมัยโบราณอีกด้วยเช่นกันครับ ลองตาม วัดสวยลำพูน มาดูกันสักหน่อย ว่าวัดแห่งนี้นั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง วัดดัง วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน วัดจามเทวี หรือที่ชาวบ้านนั้นมักเรียกกันทั่วไปว่า วัดกู่กุด เป็นวัดเก่าแก่โบารณที่มีอายุยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ซึ่งได้ตั้งอยู่บนถนนจามเทวี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ตามหลักฐานที่มีการค้นพบจากศิลาจารึกได้กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 1298 พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นพระราชโอรสของพระนางจามเทวี ทรงได้โปรดให้ช่างฝีมือชาวละโว้ ก่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อทำการถวายพระเพลิงให้แก่พระมารดา (พระนางจามเทวี) โดยมี พระเจดีย์จามเทวี เป็นพระเจดีย์ที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบของ พุทธคยา ที่อยู่ในประเทศอินเดีย ต้้งประดิษฐานโดดเด่นอยู่ภายในวัดครับ  ความน่าสนใจ ของ วัดจามเทวี ต้องบอกก่อน่าแต่เดิม พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ หรือ พระเจดีย์ตามเทวี น้้นจะเป็นเจดีย์ทรงเหลี่ยมมียอดห่อหุ้มเอาไว้ด้วยทองตามแบบฉบับ พุทธคยา ที่ออยู่ในประเทศอินเดีย โดยที่ในแต่ละด้าน นั้นจะมีพระพุทธรูปปางประทานพรจำนวน 15 องค์ ประดิษฐานอยู่ครับ หากนับรวมแล้วจะมีทั้งหมด 60 องค์ ส่วนภายในพระเจดีย์นั้นก็จะเป็นที่บรรจุพระอัฐิของพระนางจามเทวี ซึ่งพระองค์เป็นปฐมกษัตริย์แห่ง นครหริภุญชัย หรือ เมืองลำพูน ครั้งในสมัยก่อนนั่นเองครับ แต่ในเวลาต่อมายอดเจดีย์กลับได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ชาวบ้านจึงได้เรียกว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ องค์นี้กันว่า เจดีย์กู่กุด ครับ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น

สำหรับวันนี้ วัดสวยเมืองไทย จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งวัดสวยเก่าแก่ของจังหวัดอ่างทอง อย่างที่ วัดขุนอินทประมูล ซึ่งวัดแห่งนี้นอกจากจะมีไฮไลท์สำคัญคือพระนอนองค์ใหญ่ที่เป็นดั่งแลนด์มาร์คของทางวัดแล้ว ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ วัดสวยเมืองไทย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม และดึงดูดให้คนไทยเราเข้าวัดกันมากขึ้น อาจจะด้วยเหตุทางการท่องเที่ยว แต่อย่างน้อย ๆ ผู้คนก็ได้มาใช้เวลาอยู่ในวัดซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง วัดขุนอินประมูล นั้นเป็นวัดที่ประดิษฐานของ พระนอนองค์ใหญ่ ที่มีชื่อว่า พระศรีเมือง แห่งทุ่งโพธิ์ทอง มีสถานที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง ซึ่งวัดนี้ถือว่าเป็นวัดโบราณอีกหนึ่งแห่งของไทยเรา ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย โดยเราสามารถดูได้จากซากอิฐแนวเขตเดิมคาดว่าน่าจะเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ เพราะขนาดของพระนอนนั้นมีความยาวมากกว่า 50 เมตร นับว่าเป็นพระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ ที่มีความยาวเป็นอันดับที่สอง รองจากพระนอนที่ จังหวัดสมุทรปราการ โดยแต่เดิม พระนอน องค์นี้ได้ประดิษฐานอยู่ในวิหาร แต่เกิดเหตุถูกไฟไหม้ไปจนทำให้เหลือแต่องค์พระที่อยู่กลางแจ้งมานานนับร้อย ๆ ปี สำหรับองค์พระพุทธรูปจะมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับ พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี คาดการณ์ว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน องค์พระนอน ที่วัดแห่งนี้มีลักษณะที่งดงาม และมีพระพักตร์ยิ้ม ทำให้ดูน่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ในอดีตที่ผ่านมา พระมหากษัตริย์ไทย หลายพระองค์ทรงได้เคยเสด็จมา กราบสักการะบูชา ทั้ง พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึง

วัดสวยเชียงราย นอกจาก วัดร่องเสือเต้น หรือ วัดร่องขุน แล้ว ยังมีวัดสวยอลังการงานสร้าง และยิ่งใหญ่พอ ๆ กันอยู่ ซึ่งก็คือ วัดขัวแคร่ หรือ วัดมังคลถาวราราม อีกแห่งอยู่ด้วยครับ เรียกว่าสถาปัตยกรรมนั้นไม่ได้แพ้ไปจาก วัดดังเชียงราย ที่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย และในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวไหว้พระ ทำบุญ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กันที่ วัดสวยภาคเหนือ แห่งนี้กันครับ วัดมังคลถาวราราม วัดขัวแคร่ จังหวัดเชียงราย วัดมังคลถาวราราม หรือที่รู้จักกันในชื่อของ วัดขัวแคร มีสถานที่ตั้งอยู่ภายใน ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีความโดดเด่นในเรื่องของศิลปะกรรมมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ตัวของพระวิหาร หรือ ซุ้มประตูของวิหาร เป็นต้น ที่เรียกว่ามีความยิ่งใหญ่อลังการ แถมยังวิจิตรสวยงามอ่อนช้อยมาก ๆ และยังมีสีสันสวยงามอีกด้วย ใครที่ผ่านไปมาจะต้องสังเกตเห็นได้อย่างแน่นอน ประวัติความเป็นมา จากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมานั้นจริง ๆ แล้วประวัติของ วัดวัดมังคลถาวราราม แห่งนี้ ไม่ปรากฏหลักฐานปีที่สร้างขึ้นมาอย่างชัดเจนครับ แต่จะเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว

วัดพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างพากันแวะเวียนเข้าไปกราบไหว้สักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง กันอย่างไม่ขาดสาย โดยที่พระธาตุดอยตุงได้อยู่คู่บ้านและคู่เมืองจังหวัดเชียงรายตั้งแต่อดีตจวบปัจจุบัน และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อที่ไม่ว่าจะทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาตินั้นต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ความสวยงามขององค์พระธาตุ รวมไปถึงบรรยากาศของสถานที่โดยรวม สำหรับบทความนี้ วัดดังเชียงราย จะมาพาทุกท่านไปลองทำความรู้จักสถานที่แห่งนี้เองครับ  วัดพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย ตามตำนานนั้นเล่าเอาไว้ว่า พระธาตุดอยตุงนั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอชุตราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ (ในปัจจุบันนั้นคืออำเภอแม่จัน) และพระมหากัสสปะทรงได้ทำการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้าซ้าย) และได้ส่งมอบต่อให้แก่พระเจ้าอชุตราชไว้ เพื่อสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ ณ บนดอยตุงแห่งนี้ครับ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์เอาไว้ แล้วจึงไดเให้มีการทำตุง (ธง) ที่มีความยาว = หนึ่งพันวา เพื่อนำไปปักไว้ที่บนยอดเขา หากว่าตุงนั้นปลิวแล้วไปถึงที่ใดก็ให้กำหนดเป็นฐานของพระเจดีย์ โดยพระองค์ทรงโปรดพระราชทานทองคำ ให้แก่พวกลาวจกไว้เพื่อเป็นค่าที่ดิน และให้แก่พวกมิลักขุทั้งหมด 500 ครอบครัว เพื่อคอยดูแลรักษาพระธาตุ ซึ่งต่อมาในสมัยของเจ้ามังรายนราชราชวงศ์สิงหนวัติ พระมหาวชิรโพธิเถระท่านทรงได้สั่งให้มีการนำพระบรมสารีริกธาตุมาถวายทั้งหมด 50 องค์ ซึ่งเจ้ามังรายนราชนั้นทรงให้ทำการสร้างพระเจดีย์ขึ้นใหม่อีกองค์ ใกล้กับเจดีย์องค์เดิม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ทุกวันนี้ที่พระธาตุดอยตุงจะมีเจดีย์สององค์ครับ ไหว้พระธาตุดอยตุง พระธาตุประจำปีคนเกิดปีกุน วัดพระธาตุ ดอยตุง นั้นเป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงรายมานาน โดยด้านหลังจะมีพระธาตุตั้งอยู่จำนวน 2

สำหรับปี 2567 นี้ ใครที่กำลังหา ฤกษ์ทำบุญบ้าน 2567 เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับที่อยู่อาศัย ตามปฏิทินไทย วันนี้เราได้นำมาฝากกันแล้วครับ โดยจะเป็นฤกษ์เหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งการ ขึ้นบ้านใหม่, ย้ายเข้าบ้านใหม่ และทำบุญบ้าน ที่ดีที่สุดของเดือนมิถุนายน – ธันวาคม 2567 นี้เลยครับ แต่ทว่าจะมี ฤกษดี2657 วันไหนบ้างไปดูกันเลย ฤกษ์ทำบุญบ้าน ปี 2567 นอกจากเหตุผลที่เราต้องหาฤกษ์การทำบุญบ้าน เพื่อการเสริมสิริมงคลให้กับบ้านแล้ว หลายคนเชื่อว่าการ ทำบุญบ้าน ยังหมายถึงการแสดงเคารพต่อพระรัตนตรัย และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกียรติกับเหล่าเทวดา เจ้าที่เจ้าทางที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่นั้นๆ เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของผู้อยู่อาศัย ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนมิถุนายน 2567 ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนกรกฎาคม 2567 ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนสิงหาคม 2567 ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนกันยายน 2567 ฤกษ์ทำบุญบ้าน เดือนตุลาคม 2567 ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนพฤศจิกายน 2567 ฤกษ์ดีทำบุญบ้าน เดือนธันวาคม 2567 จบไปแล้วสำหรับการดู

ได้เวลาเช็ก ดวงรายสัปดาห์ ตามวันเกิด ช่วงวันที่ 26 พ.คง – 2 มิ.ย. 2567 ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม และเข้าสู่เดือนมิถุนยน 2567 ว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องระมัดระวังกันบ้าง โดยจะมี ดวงการงาน ดวงการเงิน ดวงความรัก และ ดวงสุขภาพ ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไป ดูดวงประจำสัปดาห์ กันเลยดีกว่า ดูดวงรายสัปดาห์ ช่วงวันที่ 27 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2567 ทำนายดวงคนเกิดวันอาทิตย์ ทำนายดวงคนเกิดวันจันทร์ ทำนายดวงคนเกิดวันอังคาร ทำนายดวงคนเกิดวันพุธ ทำนายดวงคนเกิดวันพฤหัสบดี ทำนายดวงคนเกิดวันศุกร์ ทำนายดวงคนเกิดวันเสาร์ การเช็กดวงด้วยการ ดวงรายสัปดาห์ ผู้ที่เกิดทั้ง 7 วัน ระหว่างช่วงวันที่ 27 พ.ค. – 2 มิ.ย. 67 ที่ท่านได้เช็กกันไปแล้วนั้น ขอให้เข้าใจก่อนว่าเป็นการทำนายทายทักเพียงเท่านั้น เพื่อให้รู้ว่าแนวทางภายในสัปดาห์นี้ชีวิตของท่านะเป็นเช่นไร ดังนั้นการไม่ประมาทและมีสติตลอดเวลา จะช่วยให้ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดีครับ