Uncategorized

สุดสัปดาห์นี้แวะมาไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดสวยเมืองไทย ที่ นครนายก อย่าง วัดศรีกะอาง กันดีกว่าครับ ซึ่งเป็นวัดที่เขาว่ากันว่า มีพระพุทธชินราชที่ใหญ่ที่สุดในไทยประดิษฐานอยู่ด้วยครับ โดยตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลเลย ถือว่าเป็นสถานที่ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่ต้องจัดให้ว่า ดีงามมาก ๆ กับวัดที่มีชื่อว่า วัดศรีกระะอาง จังหวัดนครนายก งั้นลองตาม วัดสวยนครนายก ไปไหว้พระกันเลยครับ สักการะวัดบนยอดเขา ใกล้กรุงเทพ ที่ วัดศรีกะอาง ประวัติความเป็นมา พร้อมสิ่งที่น่าสนในภายในวัด สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครนายกมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก เขื่อน ศูนย์การเรียนรู้ รวมถึงวัดที่ค่อนข้างหลากหลาย วันนี้วัดที่เราจะนำเสนอให้ทุกคนรู้จัก และไปเที่ยวกันคือ “วัดศรีกระะอาง” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดเขากะอาง เป็นวัดที่สงบ ร่มรื่น อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้เยอะมาก มีที่จอดรถกว้างขวาง สามารถเดินขึ้นเขาไปดูความสวยงามของธรรมชาติได้ วัดศรีกระะอาง นั้นตั้งอยู่ที่ ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก โดยวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลององค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่สร้างด้วยอิฐถือปูน มีขนาดหน้าตักกว้าง 18 เมตร และมีความสูงกว่า 30 เมตร โดยทำการสร้างอยู่บนยอดเขาสูงกว่า 150 เมตร […]

วันนี้เราจะมาดูกันว่า เช็คดวงประจำวัน ในปีพ.ศ. 2567 ของผู้ที่เกิดทั้ง 7 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ – เสาร์ นั้นจะเกณฑ์เป็นอย่างไร เพราะในแต่ละวันดวงของคนเราสามารถเปลี่ยนได้อยู่ตลอดเวลา วันนี้อาจไม่ดี แต่พรุ่งนี้อาจดีก็สามารถเป็นไปได้เช่นกัน และถ้าหากคุณอยากรู้ว่าดวงของคุณจะเป็นเช่นไร ดวงตามวันเกิด จะช่วยตอบให้เองครับ เช็คดวงประจำวันเกิด 2567 คนเกิด “วันอาทิตย์” อุปนิสัยคนเกิดวันอาทิตย์ : นั้นมีนิสัยที่ค่อนข้างใจร้อนและวู่วาม มักชอบทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่น ไม่ค่อยคิดให้รอบคอบสักเท่าไหร่ แต่คนที่เกิดวันนี้จะมีลักษณะความเป็นผู้นำสูง จึงมักเป็นที่พึ่งพิงของผู้อื่นได้อยู่เสมอ มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีความทะเยอทะยาน และรักในศักดิ์ศรีและค่อนข้างใจกว้าง  ดวงการงาน : การงานของคนเกิดวันอาทิตย์ในปีนี้คนที่ประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง เช่น อาจาย์ วิศวกร ผู้พิพากษา หมอ พยาบาล บัญชี ทนาย นักวิเคราะห์ทางการเงิน หรือเจ้าของธุรกิจจะมีโอกาสประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง รวมถึงอาชีพอื่น ๆ ก็มีทิศทางที่ดีหากมีการวางแผนและจัดระบบระเบียบงานได้ดีก็จะมีความเจริญก้าวหน้าซึ่งอาจจะต้องเหน็ดเหนื่อย แต่ประสบความสำเร็จแน่นอน  ดวงการเงิน : ด้านการเงิน แม้ว่าจะมีรายได้เข้ามาเยอะในปีมังกรใหญ่นี้ แต่หากคุณไม่ทำการบริหารจัดการให้ดี ก็มีโอกาสเสี่ยงจะมีปัญหาอยู่พอสมควร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ และถี่ถ้วนเพราะไม่งั้นอาจจะสร้างหนี้ขึ้นมาโดยไ่ม่รู้ตัว

สมาชิกของเราท่านที่กำลังอยาก ดูดวงความรัก เดือนพฤษภา67 ในเรื่องของความรัก ว่าความโสดที่มีอยู่จะหายไปในเดือนนี้หรือไม่ หรือจะเป็นคนมีคนรักอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ชีวิตคู่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ และจะมีแนวทางการมูอย่างไร เพื่อแก้ไขสถานการ์ให้ดีขึ้น หากท่านอยากรู้คำตอบลองตามไป เช็คดวงความรักตามวันเกิด ของคนทั้ง 7 วัน กันได้เลยครับ ดูดวงความรัก ประจำเดือนพฤษภาคม 67 ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ตรวจดวงความรัก คนโสด : “ยังไม่เจอคนที่พอดี” มีคนเข้ามาให้คุณได้เลือกเยอะ แต่ทว่าก็ยังไม่เจอคนที่ใช่ แนะนำว่าควรให้เวลากับตัวเองได้มีโอกาสเลือกดีแล้ว ถ้าคนที่เข้ามาแต่ยังไม่ใช่คนที่พอดีก็อยู่นิ่ง ๆ ขอให้ไปก่อนดีแล้ว คนมีคู่ : “ช่วงทำงานสร้างตัว” ช่วงนี้ความรักของคนมีคู่ เป็นเวลาที่ต่างคนต่างกำลังทำงาน เพราะมีแผนที่จะเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อสร้างครอบครัวในอนาคต มูเสริมดวงความรัก : ไหว้พระแม่กาลี เพื่อขอให้ความรักราบรื่นไม่ติดขัด และมีแต่คนดีๆ เข้ามาในชีวิต ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ตรวจดวงความรัก คนโสด : “แอบรักข้างเดียว” ช่วงนี้คุณนั้นกำลังตกหลุมรักใครบางคนโดยที่เค้าคนนั้นไม่รู้ตัว ขอให้ระมัดระวังใจตัวเองเอาไว้ให้มากๆ เพราะเขาอาจไม่ได้คิดอะไรกับคุณ จนทำให้คุณกลับมาเสียใจอยู่คนเดียว คนมีคู่ : “เริ่มใหม่กับคนเดิม” ช่วงนี้เหมือนได้แฟนใหม่ คุณยอมปรับเข้าหากัน และรู้จักทำดีต่อกันมากขึ้น มูเสริมดวงความรัก : ไหว้พระศิวะ เพื่อขอสติให้มั่นคง ผู้ที่เกิดวันอังคาร ตรวจดวงความรัก

“วันอมาวสี” หรือ วันขอเงินพระจันทร์ 2567 เป็นความเชื่อที่ว่า เป็นวันที่พระจันทร์ทรงพลังมากที่สุด เหมาะแก่การขอพร หากใครได้สวดคาถาบูชาพระจันทร์ในวันนี้ จะช่วยเสริมดวงชะตาให้มีโชคลาภ และเงินทองไหลมาเทมา ซึ่งในเดือนพฤภษาคมนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ฤกษ์ดีขอเงินพระจันทร์-เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ เพราะฉะนั้นรีบตาม วันดีเดือนพฤษภา ไปเช็กบทสวด-เคล็ดลับขอพรจากองค์จันทราเทพ ให้รับทรัพย์ เงินงอกเงยตลอดทั้งเดือนกันเลยดีกว่า “วันอมาวสี” หรือ “วันขอเงินพระจันทร์” “วันอมาสวี” หรือ “วันขอเงินพระจันทร์” เป็นการเริ่มต้นของพระจันทร์ในแต่ละเดือนที่จะเปล่งแสง และปล่อยพลังมากที่สุด ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำของทุกเดือน ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากใครได้สวดคาถาบูชาพระจันทร์ในวันฤกษ์ดีในแต่ละเดือนนั้น และขอพรจากองค์จันทราเทพ จะทำให้เรามีความสุข สงบ เงินงอกเงยตลอดทั้งเดือน ซึ่งวันขอเงินพระจันทร์ในเดือนนี้ จะตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.22 น. เคล็ดลับวันขอเงินพระจันทร์ 2567 แล้วให้ทำการตังจิตอธิษฐานขอพรตามฤกษ์ เวลา 06.00 น. (บวกลบ 12 ชม.) ซึ่งเราสามารถทำได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. เวลา 18.00-18.00 น.

ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หากต้องการไปเที่ยวทำบุญใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เพื่อเสริมบุญพาใจให้สบาย ขอแนะนำ วัดดังสมุทรปราการ เพราะมีวัดอยู่มากมายหลายแห่งที่ให้ได้ไปเช็กอินกันครับ บางวัดยังสวยงามจนกลายเป็นที่เที่ยวสมุทรปราการห้ามพลาดอีกด้วย แต่จะมีวัดอะไรที่น่าสนใจอยู่บ้าง เพื่อให้คนสายบุญอย่างเราได้ไปเที่ยว ทำบุญ และไหว้พระเพื่อเสริมมงคลในวันดี ๆ วัดสวยเมืองไทย จะพาไปดูเองครับ 5 วัดดังสมุทรปราการ 1. วัดพระสมุทรเจดีย์ เรียกว่าเป็น วัดสำคัญของสมุทรปราการ เลยก็ว่าได้ครับ วัดนั้นตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยภายในวัดจะมีโบราณสถานที่สำคัญ ก็คือ พระสมุทรเจดีย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระเจดีย์กลางน้ำ สาเหตุมาจากในสมัยก่อนนั้นพระเจดีย์แห่งนี้ได้ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำ แต่ทว่าต่อมาแม่น้ำเกิดตื้นเขินจนมีผืนดินเชื่อมเข้ากับเกาะเหมือนดั่งที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ตามประวัตินั้นพระสมุทรเจดีย์ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยทำการสร้างหลังจากที่มีการสร้างป้อมปราการ 6 ป้อมบริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งได้มีการสร้างและบูรณะปฎิสังขร์กันเรื่อยมาจนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านในเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ 12 องค์ 2. วัดอโศการาม วัดน้้นตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากอ่าวไทย ใกล้ ๆ กับสถานตากอากาศบางปู ก่อสร้างขึ้นเมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2497 – 2498 ตั้งแต่แรกเริ่มก่อนจะมาเป็นวัดนั้น ได้เป็นสำนักสงฆ์

วัดม่วงชุม จังหวัดสิงห์บุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เป็นอีกที่ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวกันช่วงสุดสัปดาห์นี้ครับ นอกจากสิงห์บุรีนั้นจะมีที่เที่ยวดังๆ ที่ทุกคนรู้จักกันดีแล้ว เราจึงอยากจะให้ลองมาที่ วัดสวยเมืองไทย อย่าง วัด ม่วงชุม เพื่อเข้าไปกราบองค์พระหลวงพ่อดำ อีกทั้งยังขับรถไม่ไกล มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลยว่า วัดดังสิงห์บุรี แห่งนี้จะสวยงามและน่าสนใจตรงไหน วัดม่วงชุม จังหวัดสิงห์บุรี ประวัติและความเป็นมาของวัด วัดม่วงชุม มีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกหนึ่งในวัดเก่าแก่ของประเทศไทยที่มีอายุมากกว่า 400 ปีมาแล้ว โดยคาดว่าน่าจะสร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเมื่อก่อนนั้นจะชื่อว่า วัดกระดังงา ได้กลายเป็นวัดร้างตั้งแต่ในสมัยที่มีสงครามกับพม่าและเสียกรุงครั้งที่ 2 และได้มีการขุดพบเศียรพระหินทรายเป็นจำนวนมากนั่นเอง และหนึ่งในนั้นก็คือ หลวงพ่อดำ ที่ได้ตั้งประดิษฐานอยู่ด้านหลังวัดแห่งนี้อีกด้วย ต่อมาในช่วงประมาณปี พ.ศ.2424 นายโคก กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ โดยที่ตั้งวัดในปัจจุบันนั้นก็อยู่ใกล้กับวัดเดิม และตั้งชื่อวัดว่า ม่วงชุม โดยที่มาของชื่อวัดนั้นมาจากการที่ชาวบ้านบางระจัน ได้มาร่วมชุมนุมกันที่ใต้ต้นมะม่วง ณ ที่แห่งนี้ เลยทำให้มีความหมายว่า ชุมนุมใต้ต้นมะม่วง นั่นเองครับ ความน่าสนใจ ในปัจจุบัน วัดมวงชุม แห่งนี้ เป็นสำนักปัฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งใน จังหวัดสิงห์บุรี จึงทำให้ประชาชนนั้นต่างพากันเดินทางเข้ามาทำบุญ และร่วมปฏิบัติธรรมในวันสำคัญต่าง ๆ รวมไปจนถึงไฮไลท์ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กัน

วัดถ้ำโพธิ์ทอง ปากช่อง นั้นเป็นสถานที่ไหว้พระที่อยู่แถว ๆ เขาใหญ่ ที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำซึ่งล้อมรอบไปด้วยหินงอกและหินย้อย โดยระหว่างทางที่เราเดินเข้าสู่ตัววัด นั้นจะมีการปูกระเบื้องเอาไว้ จึงทำให้ดูสะดวกและสวยงาม และยังการประดิษฐานพระประธาน เอาไว้เพื่อให้ได้กราบไหว้บูชาพร้อมกับบทสวดต่าง ๆ อย่างเช่น คำกล่าวถวายสังฆทาน หรือ จะเป็นบทกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เพื่อเอาไว้สร้างความสุข และความสงบแก่จิตใจครับ ทำให้สมองปลอดโปร่งและมีความแจ่มใส วัดสวยเมืองไทย บอกได้เลยว่าสามารถช่วยให้ผู้ที่เดินทางมายัง วัดดังโคราช แห่งนี้ได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันแน่นอน วัดถ้ำโพธิ์ทอง วัดถ้ำโพธิ์ทอง นั้นเป็นวัดป่าสายธรรมยุต โดยภายในวัดแห่งนี้ จะมีถ้ำที่มีความน่าสนใจ และเหมาะสำหรับการมานั่งปฏิบัติธรรม ภายในถ้ำนั้นจะมีบ่อจระเข้ (หินงอก) และน้ำตกอีกด้วยครับ ในถ้ำจะมืดสนิทและเงียบมาก ๆ ตามประวัติเดิมของถ้ำแห่งนี้มีสิ่งเร้นลับ และสถานที่ก็ยังเป็นป่า จึงค่อนข้างที่จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากจะมาปฏิบัติธรรม เส้นทางไปยังวัด ปากทางเข้าวัดนั้นก็จะมีป้ายภูหินสวย ซึ่งจะต้องเข้าไปเส้นทางนี้ และจะผ่านรีสอร์ทสวย ๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาจะไปเช้าเย็นกลับก็ได้ครับ ความน่าสนใจ ของ วัดถ้ำโพธิทอง สำหรับ วัดถ้ำโพธิทอง นั้น วัดดังเมืองไทย หากใครอยากจะมาเที่ยวชม วัดนั้นจะตั้งอยู่่ที่บ้านเขาเลื่อม โดยจะเป็นถ้ำขนาดกลางที่อยู่่ในภูเขาที่ได้ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน ส่วนเส้นทางเดินขึ้นเขานั้นจะต้องผ่านป่าจันทร์ผา ที่ชาวบ้านในชุมชนร่วมกันอนุุรักษ์และได้ปลูกเพิ่มเติม ส่วนบริเวณปากทางเข้าถ้ำนั้นจะมีลมพัดผ่านช่องเขาเข้าไปยังภายในถ้ำ

วัดราชบพิธ เป็นหนึ่งใน วัดสวยกรุงเทพ ที่มีอยู่ด้วยกันหลากหลายแห่ง ที่นอกจากจะมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงาม ที่มีความน่าสนใจ และน่าไปเยี่ยมชมเพื่อศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ วัดราชบพิสถิตมหาสีมาราม พระอารามหลวงประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ที่วันนี้ วัดสวยเมืองไทย จะพาไปทัวร์กันครับ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชบพิสถิตมหาสีมาราม หรือที่คนไทยเรานิยมเรียกสั้น ๆ ว่า วัดราชบพิธ ตั้งอยู่บนถนนเฟื่องนคร เป็นวัดที่มีการสร้างขึ้นรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 5 โดยมีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างของไทยและยุโรป ลักษณะภายนอกนั้นจะเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในโบสถ์มีการออกแบบตกแต่งไปทางตะวันตก ส่วนความโดดเด่นของวัดราชบพิท นั้นก็คือ พระอุโบสถ วิหาร องค์พระเจดีย์ และระเบียงแก้ว โดยมีลายไทยลงรักษ์ประดับมุกที่มีความวิจิตรสวยงาม และบางส่วนนั้นตกแต่งด้วยลายกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ สำหรับองค์พระเจดีย์นั้นประดับกระเบื้องเคลือบทรงระฆัง โดยเป็นเจดีย์ประธานองค์สุดท้าย ที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบแผนประเพณีนิยมที่ทำกันมาแต่โบราณ และถ้าหากอยากจะรู้จัก วัดราชบพิทฯ กันให้มากกว่านี้ ลองตาม เว็บหวยสด ไปดูกันได้เลยครับ ประวัติความเป็นมา วัดราชบพิท คือพระรามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ถูกสร้างขึ้นเมื่อตอนปี พ.ศ. 2412 ในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 5 เพื่อทรงให้กลายเป็นวัดประจำพระองค์ โดยมี พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ นั้นเป็นแม่กองอำนวยการก่อสร้างครับ และเนื่องจากเป็นวันที่มีมหาสี มาทำการตั้งที่กำแพงวัดทั้ง 8 ทิศ และยังเป็นวัดที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างขึ้น จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ วัดราชบพิทสถิตมหาสีมาราม ในปัจจุบันนั่นเองครับ

วัดอนาลโยทิพยาราม เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวไหว้พระของ จังหวัดพะเยา และคงจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ลองไปเยือน วัดสวยเมืองไทย แห่งนี้ครับ เพราะว่าที่นี่จัดให้ว่าเป็น วัดที่มีความวิจิตรงดงามไปด้วยศิลปะ และยังมีวิวสวย ๆ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา อย่าง วัด อนาลโยทิพยาราม นั่นเองครับ ว่าแล้วก็ขอให้ตาม วัดดังประเทศไทย ไปเที่ยวพะเยา และไปชมความงามของวัดอนาลฯ แห่งนี้นี้กันเลยดีกว่าครับ เที่ยมชมสถาปัตยกรรมโบราณ วัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ประวัติ วัดอนาลโยทิพราม โดยที่ วัดอนาลโยทิพยราม แห่งนี้นั้น คือสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ถูกสร้างขึ้นมาจากแรงศรัทธาของผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และวัตรปฏิบัติของ พระปัญญาพิศาลเถร หรือว่า หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ซึ่งท่านเป็ฯพระสายวิปัสนา ที่มีลูกศิษย์ ลูกหาให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก จนสามารถทำให้เกิดสถานที่ปฏิบัติธรรมบนดอยบุษราคัมแห่งนี้ขึ้นมานั่นเองครับ จุดเด่นที่น่าสนใจ ของ วัดอนาลโยทิพยราม วัดอนาลโยทิพยราม หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดอนาลโย นั้นตั้งอยู่บริเวณดอยบุษราคัม และม่อนพระนอนครับ เป็นเป้ฯวัดที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปต่าง ๆ อยู่มากมาย ทั้งยังมี ศิลปะแบบสุโขทัยนั่นก็คือ องค์พระพุทธไสยาสน์ องค์พระพุทธรูปปางลีลา และองค์พระพุทธรูปปางนาคปรก เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนั้นก็สร้างอกมาด้วยความประณีตสวยงามวิจิตรตระการเป็นอย่างมาก วิหารพระหมื่นปี นั้นเป็นวิหารทรงสูงที่มีหลังคาหลายชั้น เมื่อเราเข้าไปด้านใจะมองเห็นพระพุทธรูปที่ได้ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง อยู่ภายในพระวิหารที่มีหน้าต่างกระจกใสเป็นช่องแสงเพื่อให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้ครับ ขอต่อด้วยลานกว้างที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งประดิษฐานของ พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่ และยังมีเจดีย์ที่ได้ทำการจำลองมาจาก

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร นั้นจะเรียกสั้นๆ ในแบบที่เราคุ้นหูก็คือ วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพ นั่นเองครับ เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ (วัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1) ยังมีพระนอนที่ใหญ่ที่สุดด้วยความยาวมากกว่า 150 ฟุต แถมยังเป็นที่มีพระเจดีย์เยอะมากที่สุดในประเทศไทย มีจำนวน 99 องค์ และวันนี้ วัดสวยเมืองไทย จะขออาสาพาไปดูกันว่าวัดแห่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพ ประวัติความเป็นมา สำหรับประวัติโดยย่อของ วัดโพธิ์ หรือชื่อทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร นั้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่านทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกหม่อม ให้ทำการสถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอก ครั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ให้เป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง และยังใต้พระแท่นตั้งประดิษฐาน พระพุทธเทวปฏิมากร ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ไว้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านเอาไว้ด้วย สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด 1. พระนอนวัดโพธิ์ พระนอนวัดโพธิ์ ท่าเตียน ถ้าตามประวัติที่ วัดดังกรุงเทพ ทราบมานั้นสร้างขึ้นสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 3 ครั้งที่ทรางบูรณะวัดแห่งนี้ โดยทรงได้มีพระราชดำริว่า พระพุทธรูปปางสำคัญนั้นได้สร้างขึ้นภายในวัดนี้หลายปางแล้ว ขาดอยู่แต่ปางไสยาสน์เพียงเท่านั้น จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปางไสยาสน์องค์นี้ขึ้นครับ