Uncategorized

วัดหยุดยาว ๆ หรือซัมเมอร์นี้ เราจะพาสายเที่ยวทะเลทุกท่านไปดำน้ำ เดินเล่นบนหาดทรายขาว เล่นน้ำทะเลสีฟ้าสวย ๆ กันที่ หมู่เกาะช้างเผือกในทะเลพม่า หรือ Cock Burn Island ซึ่งที่นี่ถูกเปรียบให้เป็นดั่งราชาแห่งท้องทะเลอันดามัน เลยครับ ได้ยินแบบนี้แล้วรีบเตรียมบิกินี พร้อมกับแพ็คกระเป๋าของทุกคนเอาไว้ให้พร้อม และตามเราไปผจญภัยกับ ที่เที่ยวทะเลพม่า แห่งนี้ ว่าจะมีความสวยงามอันซีนขนาดไหนกันเลยดีกว่า หมู่เกาะช้างเผือก ประเทศพม่า หมู่เกาะ “ช้างเผือก” หรือ Cock Burn Island นั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีความงดงามแบบสุด ๆ ของทะเลพม่า เลยครับ เพราะที่นี่ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ที่รวมกันจนเป็น หมู่เกาะ ช้างเผือก มีน้ำทะเลใส ๆ รวมถึงแนวปะการังที่สวยงามสุดจะบรรยาย ใครที่ชื่นชอบการดำน้ำ รับรองว่าจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ช่วงแรกที่คุณดำดิ่งลงไปในน้ำ คุณจะได้พบกับฝูงปลาและปะการังหลากหลายชนิดอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นปลาปักเป้า ปลาดาว หรือปลาการ์ตูน ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ การเดินเล่นบนหาดทรายขาวก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ ที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไม่แพ้กัน หากได้มาสัมผัส คุณจะต้องยกนิ้วให้กับความอุดมสมบูรณ์ของทะเลพม่าอย่างแน่นอน การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในพม่าแห่งนี้ เราสามารถจองทัวร์แบบ One […]

ใครที่เคยมีโอกาสได้ไปกราบสักการะ พระนอน ที่สวยงดงามของ พังงา ณ วัดสุวรรณคูหา กันมาแล้วบ้างครับ เพราะถือได้ว่าที่นี่เป็น วัดดัง ที่มีความสวยและยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วยครับ ซึ่งนอกจากเราจะได้เที่ยวไหว้พระกันแล้ว ก็ยังได้ชมความสวยของธรรมชาติอีกด้วยครับ เพราะที่นี่ก็เป็นเหมือน วัดถ้ำ สวย ๆ อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยครับ ใครที่ยังไม่เคยไปมาก่อน วันนี้เราจะพาไปเที่ยว วัดสวยพังงา แห่งนี้เองครับ วัดสุวรรณคูหา จังหวัดพังงา วัดสุวรรนคูหา นั้นเป็นวัดราษฎร์ภายใต้สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย มีสถานที่ตั้งอยู่ภายในตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา โดยมีเนื้อที่วัดเจำนวน 20 ไร่ ซึ่งพื้นที่ตั้งของวัดเป็นบริเวณภูเขาถ้ำ โดยทางวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 ประวัติความเป็นมาของวัด วัดสุวรรนคูหา นั้นไม่ปรากฏประวัติการสร้างวัดที่ปรากฎอย่างแน่ชัด มีเพียงเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีพระธุดงค์และสามเณรได้เดินทางมาจำวัดกันที่ วัดบน (ปัจจุบันเป็นวัดร้าง) ซึ่งจะอยู่คนละฝั่งคลองกับเขาถ้ำและยังมีการพบว่าเขาหินปูนแห่งนี้มีถ้ำอยู่ตามเชิงเขา จึงได้ทำการเข้าไปพำนักอยู่และปรับปรุงให้กลายเป็นวัดขึ้นมา ซึ่งเรียกกันว่า วัดถ้ำ ความน่าสนใจภายในวัด วัดสุวรรคูหา มีอีกชื่อเรียกคือ วัดถ้ำ วัดนี้เป็นวัดโบราณที่สำคัญของจังหวัดพังงา โดยวัดมีโบราณสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพังงาอยู่ด้วยครับ และด้วยบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้เป็นภูเขา จึงทำให้มีทั้งถ้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ถ้ำใหญ่ ถ้ำแจ้ง ถ้ำมืด ถ้ำแก้ว ถ้ำผึ้ง ถ้ำครัว และ ถ้ำบน ที่เป็นถ้ำสูงสุดนั่นเองครับ  แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเข้าไปไหว้พระกันในถ้ำใหญ่มากกว่าครับ ซึ่งถ้ำนี้มีความใหญ่กว่าถ้ำอื่น

วัดถ้ำพระเขาชัยสน พัทลุง ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดของทาง ภาคใต้ ที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ รวมไปถึง วัดดังพัทลุง อยู่อีกหลายแห่ง และถ้าจะให้พูดถึงที่เที่ยวชื่อดังของ อำเภอเขาชัยสน แล้วหละก็ ต้องห้ามพลาดที่นี่เลยเป็นอันขาดครับ กับการเที่ยว ถ้ำเขาพระชัยสน ถ้ำสวยพัทลุง ซึ่งภายในนั้นจะมีพระพุทธรูปสวย ๆ ประดิษฐานอยู่ เพราะฉะนั้นวันนี้ลองตามเราไปชมความสวยงามของที่นี่กันเลยดีกว่าครับ วัดดังพัทลุง วัดถ้ำพระเขาชัยสน ประวัติความเป็นมาของวัด วัดถ้ำพระ นั้นเป็นสถานที่ตั้งของ ถ้ำพระ เขาชัยสน สถานที่ท่องเที่ยวของ อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว พากันเดินทางไปกันเป็นจำนวนมาก ความน่าสนใจภายในวัด พอเราเมื่อมาถึงที่ ถ้ำพระ – เขาชัยสน กันเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปจะต้องเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าไปยังในถ้ำสวยพัทลุงแห่งนี้ โดยชั้นแรกเมื่อไปถึงจะเจอกับลานกว้างที่อยู่ทางด้านหน้าถ้ำ ซึ่งจะมีลักษณะคล้าย ๆ เหมือนกับเป็นห้องโถงที่เปิดเอาไว้ครับ พอเงยหน้ามองขึ้นไปได้บนสักเล็กน้อย เราจะได้เห็นต้นไม้ห้อยย้อยลงมาอย่างสวยงามมาก ๆ เลยครับ เมื่อเดินเข้ามาจากทางด้านหน้า จะพบกับห้องแรก โดยภายในห้องนั้นจะมี บ่อน้ำ ที่ชาวพัทลุง มีความเชื่อต่อ ๆ กันมาว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ครับ เพราะน้ำในบ่อนั้นสามารถนำไปต้มยาเพื่อใช้รักษาอาการป่วยได้ครับ ถัดจากห้องแรกไปอีกนิด เราจะพบกับ “เสาไม้” ที่ถูกแกะสลักเอาไว้อย่างงดงาม ซึ่งจะมีลักษณะคล้าย

วันหยุดนี้ลองไปเที่ยวไหว้พระ กันที่ วัดเขารูปช้าง หนึ่งใน วัดสวยเมืองไทย ของจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่น่าสนใจกันหน่อยดีกว่า ใครที่สงสัยว่าทำไมเราถึงได้แนะนำให้ไปที่ วัดสวยพิจิตร แห่งนี้ ถ้าอยากรู้ลองตามเราไปดูกันว่า วัดรูปช้าง นั้นจะมีความสวยงามขนาดไหนกันได้เลยครับ วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร วัด-เขารูปช้าง มีสถานที่ตั้งวัดดยู่ภายใน ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ในเส้นทางถนนสายพิจิตร – ตะพานหิน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร วัดนี้เป็นอีกหนึ่งในวัดเก่าแก่ ที่มีความน่าสนใจมาก ๆ ครับ ประวัติและความเป็นมา จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ วัดดังในจังหวัดพิจิตร ได้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2244 พร้อมกับวัดโพธิ์ประทับช้าง โดยมีการก่อสร้างในสมัยพระเจ้าเสือ แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสมุหนายกได้ทำหน้าที่ควบคุมไพร่พลโยธาในการสร้างวัดโพธิ์ประทับช้าง ตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าเสือ จนกระทั่งได้พบกับภูเขาที่มียอดที่มีลักษณะคล้ายรูปช้าง จึงเห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างวัด จึงได้เริ่มก่อสร้างที่พักบนที่สูงเพื่อใช้ในการสำรวจภูมิประเทศและดูแลความปลอดภัยของไพร่พลไปพร้อมกัน หลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น พระองค์ได้ตั้งชื่อวัดนี้ว่า “เขารูปช้าง” ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของหินสีขาวที่เรียงซ้อนกันคล้ายกับช้างที่นั่งคุกเข่าอยู่บนยอดเขา สำหรับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในวัด จะประกอบไปด้วยโบสถ์ วิหาร พระพุทธรูป และพระปรางค์เจดีย์ โดยมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในสมัยอยุธยา

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ใครยังไม่มีคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้เราขอชวนทุกท่านไปชิลกันที่ เกาะขาม สัตหีบ ชลบุรี กันแบบ 1 วัน เต็มๆ ไปเลยครับ กับที่เที่ยว ทะเลสวยใกล้กรุงเทพ ที่จะทำให้เราได้เห็นน้ำสีฟ้าใส ๆ อีกทั้งยังใช้งบไม่มากอีกด้วย เรียกว่าประหยัดสุด ๆ ใครที่สนใจลองตามเราไปดู ที่เที่ยวชลบุรี แห่งนี้กันได้เลยครับ เกาะขาม ชลุบรี เกาะ-ขาม นั้นอยู่ภายในจังหวัดชลบุรี เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสัตหีบ ซึ่งทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถขับรถไปเที่ยวได้อย่างสะดวกภายในเวลาเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ สำหรับการเดินทางไปยังเกาะ-ขามนั้น จำเป็นต้องทำการจองตั๋วเรือล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ของฐานทัพเรือสัตหีบก่อนครับ ขั้นตอนการจองตั๋วสามารถดูได้ที่นี่ครับ https://www.kohkham.com โดยจะมีราคาตั๋วคนละ 300 บาท ซึ่งไม่รวมพวกอุปกรณ์ดำน้ำ แต่จะอย่างไรก็ตาม เราสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำได้ที่เกาะในราคาเพียงชุดละ 50 บาทสำหรับ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ บัตรที่หางยังสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยในราคา 50 บาทได้อีกด้วย เมื่อไปถึงแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เขาจะมีจุดบริการรับฝากรถเอาไว้ตรงบริเวณหน้าทางเข้า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะ และทะเลไทย ซึ่งเราสามารถนำรถไปจอดฝากไว้ตรงนั้นได้เลยครับ แล้วเดินไปรับตั๋วตรงบริเวณ จุดซื้อตั๋วไปเกาะ-ขาม การเดินทางไปเกาะ-ขาม สัตหีบ เมื่อเราได้รับตั๋วเรียบร้อยแล้ว ให้ไปนั่งรอขึ้นรถสองแถวได้เลยครับ ซึ่งจะเป็นรถโดยสารที่รับ-ส่งจากจุดจำหน่ายตั๋วไปยังท่าเรือเขาหมาจอ ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับข้ามไปเกาะ-ขามและเกาะแสมสาร

วัดหลินอึ๋ง (Linh Ứng) ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองดานัง (Đà Nẵng) เมืองนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงริมทะเลในประเทศเวียดนาม ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ที่เที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาทางตอนเหนือของเมือง และเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากภายในตัวเมืองดานังเลยทีเดียว วัดหลินอึ๋ง เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม วัดหลินอึง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเมืองดานัง ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนปีละหลายล้านคน ที่นี่มีองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่สูง 67 เมตร ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น มองเห็นได้จากระยะไกล และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวเมืองดานัง ดังนั้น วัดหลินอึงจึงถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนดานัง ถ้าคุณกำลังวางแผนเดินทางไปดานังด้วยตัวเอง วัดหลินอึงเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง คุณสามารถหาที่พักที่ดีในเมืองดานังและใช้บริการรถสาธารณะเพื่อเดินทางไปยังแลนด์มาร์กสำคัญนี้ได้อย่างสะดวกสบาย ก่อนที่คุณจะไปเที่ยว ลองมาทำความรู้จักกับวัดนี้กันก่อนสักเล็กน้อย ประวัติของวัด วัดหลินอึง (Linh Ứng) วัดสวยเวียดนาม ถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 2004 เกิดจากความร่วมมือของชาวเมืองดานังครับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปกป้องเมืองจากภัยพิบัติ และคุ้มครองชาวประมงที่ออกไปหาปลาในท้องทะเล โดยเรือทุกลำที่แล่นผ่านนั้นจะสามารถมองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวขนาดใหญ่ที่ได้หันหน้าออกสู่ทะเล พร้อมทั้งยังได้ยินเสียงระฆังของวัดที่ดังประสานกับเสียงคลื่น เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ชาวเรือนั้นรู้สึกสงบและมีขวัญกำลังใจในการออกทะเลอย่างมากครับ วัดสวยดางนัง เวียดนามกลาง แห่งนี้ใช้เวลาในการสร้างราว ๆ 6 ปี โดยเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2010 จึงทำให้กลายเป็นวัดที่มีความสำคัญในของเมืองดานังอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนหลายล้านคน

วันนี้เราจะพาไปเช็ก ดวงดีส่งท้ายปี 67 เพื่อจะได้รู้ว่า ดวงหน้าที่การงาน, การเงิน-โชคลาภ, ความรัก และสุขภาพ ของ 5 ลักขณาราศีที่โดดเด่นมากที่สุด ถ้าพร้อมกันแล้วลองตามเราไป เช็กดวงปี67 กันเลยดีกว่าว่าจะมีราศีไหนบ้างครับ 5 ราศี ดวงดีส่งท้ายปี อันดับที่ 1. ราศีพิจิก (เกิดวันที่ 17 พ.ย. – 15 ธ.ค.) เด่น – ดวงดีไปเสียทุกด้าน มีทั้งผู้ใหญ่เมตตา และมีงานใหญ่ได้เงินก้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หรือ เรื่องงาน และเรื่องความรัก ทุกอย่างล้วนรวมอยู่ที่ราศีนี้ครับ อันดับที่ 2. ราศีตุลย์ (เกิดวันที่ 18 ต.ค. – 16 พ.ย.) เด่น – การเงินดี ค้าขายได้กำไรดีปัง ๆ อันดับที่ 3. ราศีมีน (เกิดวันที่ 15

วัดละหารไร่ เป็นหนึ่งในวัดดังที่สายบุญ นั้นไม่ควรพลาดหากได้มาเยือน จังหวัดระยอง ยิ่งถ้าใครมองหาสถานที่เพื่อสงบจิต สงบใจ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองระยอง เราขอแนะนำให้ไปสักการะรูปหล่อ หลวงปู่ทิม อิสริโก พระเกจิย์ดังแห่งระยอง กันเลยครับ เพื่อเป็นการช่วยเสริมสิริมงคล ทำให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่น ไม่มีอุปสรรค ใครที่สนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ลองตามเราไปดู วัดดังระยอง แห่งนี้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ประวัติความเป็นมาของวัด ก่อนที่จะกลายเป็นวัดละหานไร่ วัดชื่อดังในเมืองระยอง วัดนี้เคยมีชื่อว่า วัดไร่วารี เนื่องจากพื้นที่รอบวัดมีน้ำล้อมรอบอยู่ โดยคนรุ่นเก่าเล่าว่าในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นป่าทึบ หากเดินไปไม่ระมัดระวังอาจหลงทางได้ง่าย วัดนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2354 โดยหลวงพ่อสังข์เฒ่า ซึ่งในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ท่านเห็นว่าพื้นที่ติดริมคลองนี้เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชและผัก จึงเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ให้กลายเป็นแปลงเกษตร และได้สร้างที่พักเล็ก ๆ ขึ้นในบริเวณนั้นด้วย เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา หลวงพ่อสังข์เฒ่าจะเดินทางมาจำพรรษาที่วัดละหาญไร่แห่งนี้ หลังจากนั้น บริเวณข้างแปลงผักเริ่มมีชาวบ้านเข้ามาทำไร่ทำสวน และเมื่อเห็นว่ามีพระสงฆ์อยู่ ชาวบ้านจึงได้จัดหาภัตตาหารมาถวายเป็นประจำ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันสร้างกุฏิวิหารขึ้น จนในที่สุดกลายเป็น วัดละหาญไร่ ในปัจจุบันนี้ครับ โดยหลวงพ่อสังข์เฒ่า ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดนี้ครับ ความน่าสนใจภายในวัด ประวัติ

อีคลิปส์พลาซ่า (Eclipse Plaza) เป็นโซนใหม่ที่ตั้งอยู่บนบานาฮิลล์ (Ba Na Hills) ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในปี 2024 ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในการชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามบนยอดเขา โดย Eclipse Plaza มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบที่ทันสมัยและความบันเทิงที่หลากหลาย ทำให้เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนชมวิว การช้อปปิ้ง หรือการสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนบานาฮิลล์ในปี 2024 หากคุณมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวเวียดนาม อย่าพลาดการแวะมา ที่เที่ยวดานัง แห่งนี้เป็นอันขาด ก่อนอื่นเราจะพาคุณไปสำรวจจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจของ บานาฮิลล์ กันครับ อีคลิปส์พลาซ่า จัตุรัสสุริยุปราคาบน Bana Hills อีคลิปส์พลาซ่า หรือ Eclipse Square บนบานาฮิลล์ (Ba Na Hills) เป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่คนชอบ เที่ยวเวียดนาม ต้องไปเช็คอินมื่อได้ไปประเทศนี้ครับ โดยการออกแบบ Eclipse Square นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเชื่อมโยงระหว่าง ดวงอาทิตย์ กับ ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสมดุล รวมถึงความเป็นนิรันดร์ในธรรมชาติครับ โดยการออกแบบที่มีลักษณะเป็นทรงกรวยของหอแก้วตรงกลาง อีกทั้งศิลปะที่เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์

เที่ยววัดดังจังหวัดกําแพงเพชร มีเก่าแก่หลายร้อยปี ไปแล “วัดคูยาง” ได้เวลาพามาเที่ยวภาคเหนือตอนล่าง – ภาคกลางตอนบน ก็ต้องนึกถึงการไหว้พระเยือนวัดสวย วัดดัง ประจำของแต่ละจังหวัดกันใช่ไหม และวันนี้เรามาลองแวะชิมกล้วยใข่กำแพงเพชร แล้วมาหยุดชมโบราณวัตถุอันงดงาม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่และมีความสำคัญ ดังนั้นตามเรามาไหว้และชมไฮไลท์ของ วัดดังกำแพงเพชร แห่งนี้กันเลยครับ วัดคูยาง จังหวัดกําแพงเพชร ประวัติและความเป็นมา ก่อนอื่นเรามาดูประวัติ วัดคูยา กันก่อนดีกว่าครับ โดยวัดนี้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันมีพระพรหมวัชรวิสุทธิ์ (อดุลย์ อมโร) เป็นเจ้าอาวาส ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ที่มาของชื่อวัดคือมีชาวยาง (กะเหรี่ยง) มาบูรณะวัดโบราณแห่งนี้ ชาวยางได้ทำการขุดคูน้ำล้อมรอบวัด  จึงเรียกกันว่า วัด”คูยาง” ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าวัดนี้สร้างเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างมาแล้วไม่น้อยกว่า 400 ปี ความน่าสนใจของวัด ขอพร “พระพุทธวชิรปราการ” ในสมัยก่อนเป็นวัดเก่าแก่ มีรากฐานพระอุโบสถและแท่นพระประธาน ที่ก่อด้วยศิลาแลง หันไปทางทิศตะวันออก ไม่ประวัติปรากฏหลักฐานว่าวัดนี้เมื่อก่อนนั้นชื่อวัดอะไร ถึงช่วงรัชกาลที่ 4 ได้มีการก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาใหม่ ในพื้นที่เดิม โดยมีพระพุทธรูปประดิษฐานเป็นประธานในพระอุโบสถนามวว่า “พระพุทธวชิรปราการ” ซึ่งมีความหมายว่า พระพุทธรูปประจำเมืองกำแพงเพชร และเป็นที่เคารพบูชาของชาวกำแพงเพชรตลอดมา ปูชนียวัตถุที่สำคัญภายในวัด