Uncategorized

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวไหว้พระช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ไม่ใกลจากกรุงเทพ วันนี้เราขอแนะนำ วัดดอนใหญ่ ซึ่งอยู่ใน จังหวัปทุมธานี เลยครับ ซึ่งวัดนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเหมาะแก่การไปเที่ยวเช็คอินพร้อมกับถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้ในความทรงจำมาก ๆ ใครที่สนใจอยากรู้จักกับว วัดสวยปทุมธานี แห่งนี้ให้มากขึ้น ลองตามเราไปดูกันได้เลยครับ วัดดอนใหญ่ จังหวัดปทุมธานี ประวัติความเป็นมา วัด-ดอนใหญ่ เป็นอีกหนึ่งวัดสวย ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีสถานที่ตั้งอยู่ภายใน อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453 โดยมีหลวงโยธานฤบาลและนางสะอาด ได้เป็นคนถวายที่นาเพื่อสร้างวัด แต่เดิมวัดมีชื่อว่า วัดกลางคลองแปด เป็นวัดที่สำคัญในเขตลำลูกกาคลอง 8 ครับ ซึ่งมีชาวบ้านพากันมาทำบุญ ไหว้พระกันเป็นประจำ โดยที่นี่เปรียบเสมือนกับที่พึ่งทางจิตใจให้แก่พุทธศานิกชนในพื้นที่และใกล้เคียงครับ ความน่าสนใจภายในวัด อุโบสถเงินในปทุมทอง อุโบสถสีเงินของวัดนั้น ได้ตั้งอยู่โดดเด่นและมีความงดงามมาก ๆ เป็นอุโบสถที่ออกแบบในรูปแบบจตุรมุข มีทั้งหมด 4 ทิศ ซึ่งเป็นหลังเดียวในจังหวัดที่สร้างขึ้นตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า อุโบสถนี้มีสีขาวและสีเงินที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ รอบ ๆ พระอุโบสถมีการประดับกลีบบัวสีทอง ซึ่งเปรียบเสมือนที่รองรับพระพุทธองค์ตั้งแต่ครั้งที่พระองค์ประสูติ นอกจากนี้ยังถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปทุมธานี จึงได้รับชื่อว่า “อุโบสถเงินในปทุมทอง” นั่นเอง หลวงพ่อใจดี มั่งมีศรีสุข […]

ลำพูน เป็นศูนย์รวมธรรมชาติและวัฒนธรรมอันแสนงดงาม มีวัดวาอารามสวย ๆ และศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองมานาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา และมีตำนานที่มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลเลยครับ ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำพูน และยังศูนย์รวมจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ใครที่สนใจอยากไปเที่ยว วัดสวยลำพูน แห่งนี้ สามารถตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน หากมีโอกาสไปเที่ยวลำพูน สำหรับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามพลาดไปกราบไหว้เลย ก็คือ วัดพระพุทบาทตากผ้า พระอารามหลวงชั้นตรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ รอยพระพุทธบาท และ รอยตากผ้าจีวร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองลำพูนมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลเลยครับ และยังมีการบูรณะปฏิสังขรณ์มาหลายยุคหลายสมัยจวบจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน และนอกจากที่นี่จะเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระปริยัติธรรม รวมถึงการปฏิบัติธรรมแล้ว ยังมีวิวของธรรมชาติที่งดงามให้เราได้รับชมกันได้อีกด้วยครับ เพราะวัดนั้นตั้งอยู่บนยอดเขาระหว่าง ดอยม่อนช้าง และ ดอยเครือ จึงทำให้วัดนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ ซึ่งเหมาะแก่การมาทำบุญและปฏิบัติธรรมให้จิตใจร่มเย็นมาก ๆ ครับ ประวัติและความเป็นมาของวัด ตามพุทธประวัติได้มีการกล่าวเอาไว้ว่า เมื่อครั้งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ทรงเสด็จมาโปรดสัตว์ที่ดินแดนสุวรรณภูมิ ท่านได้มาประทังอยู่ตรงบริเวณ วัดพระพุทธบาธตากผ้า ในปัจจุบัน โดยพระองค์ทรงให้พระอานนท์นั้นนำผ้าจีวรไปตาก จากนั้นก็ทรงอธิษฐานและทำการประทับรอยพระบาทลงบนผาลาดที่พระองค์ได้ประทับอยู่ และตรัสขึ้นมาว่า สถานที่แห่งนี้จะมีชื่อว่า “พระพุทธบาทตากผ้า” เพื่อให้มนุษย์และเทวดาได้เดินทางมากราบไหว้สักการะกันครับ ต่อมาเมื่อพุทธศตวรรษที่ 13 พระนางจามเทวี ผู้ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย พระองค์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ให้ทำการสร้างมณฑปไว้ครอบรอยพระพุทธบาท เพื่อเป็นพุทธบูชาให้แก่พุทธศาสนิกชนครับ จวบจนกระทั่งปี พ.ศ. 2472 นั้นได้มีการก่อสร้างจัตุรมุขขึ้นมาจนสำเร็จเรียบร้อย และยังได้มีการสร้างสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างเช่น

แหล่ง เที่ยววัดใกล้กรุง นั้นมีอยู่มากมาย และสวยงามไม่แพ้ภาคไหน ๆ ในประเทศไทย โดยแต่ละวัดต่างก็มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และยังมีสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงศิลปะอารยธรรมที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะชวนสายบุญไปเที่ยว 5 วัดสวยภาคกลาง ปักหมุดทั้งพิกัด ใกล้กรุงเทพ และเขยิบออกไปนิดหน่อย แต่บอกได้เลยว่าแต่ละวัดสวยและปัง ไหว้พระทำบุญครั้งนี้ ได้อิ่มทั้งบุญอิ่มทั้งใจ แถมยังได้รูปสวยๆ มาอีกบาน เที่ยววัดใกล้กรุง วัดสวยภาคกลาง ชมความงามอันทรงคุณค่า 1. วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี อุทัยธานี เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องวัดสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอุทัยธานี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่นี่เพื่อกราบไหว้ ภายในวัดมีไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ วิหารแก้วยาว 100 เมตร ที่มีความงดงามทั้งภายนอกและภายใน โดยมีพระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานอยู่ และเสาประดับตกแต่งด้วยโมเสกสีขาวและกระจกที่สะท้อนแสงระยิบระยับราวกับผลึกแก้ว ทำให้ดูวิจิตรตระการตา นอกจากนี้ยังมี วิหารสมเด็จองค์ปฐม ที่มีความงดงามไม่แพ้กันอีกด้วย 2. วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมชุดไทยสวย ๆ เอาไว้ให้ดี แล้วไปตามรอยแม่การะเกดจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสกันที่ วัดไชยวัฒนาราม ดีกว่าครับ วันนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2173 โดยพระเจ้าปราสาททอง เพื่ออุทิศผลบุญกุศลนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์ นอกจากนี้ยังมีการสันนิษฐานเอาไว้ว่า วัดไชยวัฒนารามอาจนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมร จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมคล้าย ๆ

ใครที่ชื่นชอบการไปเที่ยวภาคเหนือ น่าจะรู้จักกับ วัดดอยติ ที่มีรูปปั้นครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอยู่ด้วยครับ เอากันจริง ๆ แล้ว ภาคเหนือ นั้นไม่ได้มีแค่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย หรือ จังหวัดน่าน ที่เป็นจุดท่องเที่ยวเพียงเท่านั้นครับ วันนี้เราจึงอยากให้ได้ลองมาเที่ยวไหว้พระ วัดดังลำพูน แห่งนี้กันดูสักครั้งครับ เพราะที่นี่มีทั้งธรรมชาติสวย ๆ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ไปกราบไหว้ ขอพร อยู่ด้วยครับ วัดดอยติ จังหวัดลำพูน ประวัติและความเป็นมา วัดดอยดิ จากข้อมูลของจังหวัดลำพูน ได้แจ้งว่า วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2025 ครับ โดยทางวัดนั้นได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2125 ประวัติของวัดแจ้งว่าวัดนี้ได้รับวิสุงคามสีมา ประมาณปี พ.ศ. 1215 ส่วนการบริหารและการปกครองวัด มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม ดังนี้ ความน่าสนใจของวัด วัดดอยต นั้นอยู่ภายในพื้นที่ของ ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน สำหรับภายในวัดนั้นก็จะมีสิ่งก่อสร้างอยู่ด้วยกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโบสถ กุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุ รวมจนถึง พระพุทธรูปพระประธานก่อด้วยศิลาแลงโบกปูน 1 องค์ด้วยครับ อีกทั้งวัดนี้ยังมี รูปจำลองครูบาศรีวิชัย

วันนี้เราจะพามากันที่ อุทยาน พระพุทธบาทหินดาษ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งที่นี่มีมี “รอยพระพุทธบาท” ขนาดใหญ่ ที่อยู่บนหินธรรมชาติ ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีความน่าสนใจมาก ๆ ของจังหวัดเพชรบูรณ์ อีกด้วยครับ หากใครได้มามาเที่ยวจังหวัดนี้แล้ว ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดมาสักการะ ขอพร จาก รอยพระพุทธบาท เป็นอันขาด ใครที่รู้สึกสนใจ ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ แห่งนี้ สามารถตามเราไปทำความรู้จักกับความเป็นมาของสถานที่นี่ กันได้เลยครับ พระพุทธบาทหินดาษ จังหวัดเพชรบูรณ์ อุทยานพระพุทธบาทหินดาด นั้นตั้งอยู่ภายในอำเภอ หนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศาสนา โดยที่นี่มี “รอยพระพุทธบาท” ที่เชื่อกันว่าเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้า ที่ได้รับการเคารพสักการะจากพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และผู้ที่เดินทางมาเยือน ตามตำนานและความเชื่อได้เล่าขานกันไว้ว่า พระพุทธองค์ เคยเสด็จมาพักที่นี่และได้ประทับรอยพระบาทบนหิน จึงทำให้สถานที่นี้กลายเป็นจุดหมายที่ผู้คนในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่ศรัทธราต่างพากันเดินทางมานมัสการเพื่อขอพรและบูชากันเป็นจำนวนมากครับ การค้นพบ พระพุทธบาทหินดาด นั้นเกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2497 เมื่อชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นรอยพระพุทธบาทอยู่บนหิน ซึ่งเป็นการนำไปสู่การสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางมาสักการะบูชา ในต่อมาที่นี่ได้รับความนิยมจากพุทธศาสนิกชน ในปี พ.ศ. 2537 ทางรัฐบาลได้ประกาศให้กลายเป็นอุทยาน เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว

วันนี้เราจะพาทุกคนไปไหว้พระทำบุญ เสริมสิริมงคล กันที่ วัดหลวงปู่ฮก กับ พระเกจิอาจารย์แห่งภาคตะวันออกที่พุทธศาสนิกชนและนักสะสมพระเครื่องต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือ หลวงปู่ฮก รตินฺธโร แห่ง วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) วัดดังชลบุรี นั่นเองครับ วัดหลวงปู่ฮก หรือ วัดราษฎร์เรืองสุข ชลบุรี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2490 ได้มีชชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัด โดยเริ่มต้นจากการสร้างที่พักสงฆ์ขนาดเล็ก ก่อนที่จะมีการสร้างกุฎิและพระอุโบสถเพิ่มเติม ทำให้สามารถก่อตั้งเป็น “วัดราษฎร์เรืองสุข” เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2510 นั่นเองครับ หลวงปู่ฮก วัดราษฏร์เรืองสุข ชื่อของหลวงปู่ฮก นั้นเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยอย่างกว้างขวางในวงการของผู้ที่สะสมพระเครื่อง โดยมักมีการพูดถึงความนิยมในพระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านอยู่เสมอ นอกจากนี้ เมื่อมีการทำบุญที่วัดต่าง ๆ มักจะได้ยินว่าหลวงปู่ฮกได้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย ทำให้ผู้ที่ยังไม่เคยไปกราบไหว้หรือเยี่ยมชมวัดนี้ต่างพากันมาขอให้ท่านเจิมหน้าผาก เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก หลวงปู่ฮก ท่านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสมถะ รักความสันโดษ ทำให้ความเป็น “พระแท้” ของท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง จนผู้คนต่างขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง” จึงไม่แปลกใจเลยที่เรามักได้ยินชื่อของท่านอยู่เสมอ ความน่าสนใจภายในวัด บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว ทำให้อากาศเย็น

วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้ความเคารพและสักการะมาก ๆ เลยครับ โดยภายในวัดนี้จะมี “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของพื้นที่นี้ จังหวัดอุบลราชธานีมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกบัวงาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความดีงาม นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่มีความเชื่อมั่นในพุทธศาสนาอย่างยาวนานตลอดหลายร้อยปี ทำให้มีวัดสวยงามหลายแห่งที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เดินทางมาทำบุญและกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประวัติและสิ่งที่น่าสนใจภายใน วัดดังอุบลราชธานี แห่งนี้กันครับ ใครสนใจตามเราไปดูกันได้เลย วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ จังหวัดอุบลราชธานี ประวัติและความเป็นมาของวัด วัดพระเจ้าใหญ่องค์ตือ หรือ วัดใต้เทิง นั้นมีสถานที่ตั้งอยู่ภายในตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยเป็นวัดที่มีความสำคัญ ทั้งในด้านศาสนาและวัฒนธรรมเลยครับ โดยเฉพาะเป็นที่ประดิษฐานของ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่โบราณ รวมถึงมีขนาดใหญ่ที่ชาวอุบลราชธานีต่างให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก โดยวัดนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำมูล สำหรับบรรยากาศโดยรอบวัดนั้นเงียบสงบและเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมมาก ๆ การสักการะพระุททธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดนี้ ถือเป็นสิ่งที่ชาวอุบลฯ นั้นทำเพื่อขอพรและความเป็นสิริมงคลในชีวิต และยังมีผู้คนเดินทางมาสักการะและขอพร เพื่อความสุขในครอบครัว รวมถึงหน้าที่การงานเป็นจำนวนมากอีกด้วยครับ โดยทางวัดนั้นมีตำนานที่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า ในขณะที่กำลังหล่อและอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาประดิษฐาน ภายในพระอุโบสถของวัด ได้เกิดฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน โดยไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตก เมื่อผู้คนเห็นเหตุการณ์นี้ ต่างเชื่อว่าเป็นสัญญาณจากพระพุทธรูปหรือเป็นอิทธิฤทธิ์และปาฏิหาริย์ ซึ่งพิสูจน์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ หลังจากนั้น ฝนฟ้าก็หยุดตก และพระพุทธรูปองค์นี้ได้รับการประดิษฐานในพระอุโบสถ ตั้งแต่นั้นมาชาวอุบลราชธานีเริ่มนับถือท่านเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์

วันนี้เราไปเที่ยวไหว้พระใกล้ๆ กรุงเทพ กันที่ อยุธยา กันหน่อยดีกว่า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วตามมาที่ วัดพุทไธศวรรย์ กันได้เลยครับ ที่นี่เป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาสวย ๆ ที่ยังคงความสมบูรณ์และงดงามเป็นอย่างมาก ลองขับรถมาเที่ยวอยุธยา และชม วัดสวยอยุธยา แห่งนี้ไปพร้อมๆ กันเลยครับ วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประวัติและความเป็นมา วัดพุทไธศวรรย เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ ที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงอย่างมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดนี้มีตำนานเล่าว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ทรงสร้างขึ้นในบริเวณที่เป็นที่ตั้งพลับพลา ซึ่งพระองค์ประทับเมื่ออพยพมายังพื้นที่นี้ ก่อนที่จะมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในพระราชพงศาวดารมีการบันทึกชื่อของตำบลเวียงเล็ก หรือเวียงเหล็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กรุงศรีอยุธยาได้ถูกสถาปนาขึ้น โดยพระมหากษัตริย์ได้มีพระราชดำริให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์ และต่อมา พระมหากษัตริย์ในยุคถัดๆ ก็ยังคงมีพระราชประสงค์ให้สร้างถาวรวัตถุเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง หลังจากที่กรุงศรีอยุธาถูกทำลายในปี พ.ศ. 2310 วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ได้ถูกทำลายโดยพม่า ปัจจุบันยังคงมีซากโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่หลายแห่ง เช่น พระปรางค์องค์ใหญ่ พระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารพระนอน และตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ความน่าสนใจของวัด พระมหาธาตุ (ปรางค์ประธาน) องค์พระปรางค์ซึ่งเป็นประธานของวัด ตั้งอยู่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และตั้งอยู่บนฐานไฟที่รองรับไปถึงมณฑปอีก

วัดมุจลินท์ เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ที่มีความงดงามของวัดวาอารามที่อยู่ใน จังหวัดลพบุรี เลยครับ แต่ทว่าๆ วัดนี้จะไม่ใช่วัดเก่าแก่ตามแบบอยุธยาที่เราคุ้น ๆ กันนะครับ เพราะเป็น วัดสวย ที่เต็มไปด้วย พญานาค องค์งาม ๆ นั่นเองครับ ใครที่รู้สึกสนใจ วัดสวยลพบุรี แห่งนี้สามารถตามเราไปดูกันได้เลยครับ วัดมุจลินท์ จังหวัดลพบุรี ประวัติความเป็นมาของวัด วัดมุจลิน มีสถานที่ตั้งอยู่ที่ ตำบลมุจลินท์ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2385 ในสมัยก่อนเรียกกันว่า “วัดโคกสลุด” ซึ่งจะตรงตามชื่อบ้านและตำบลเดิมครับ ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2524 ได้มีการแยกตำบลเกิดขึ้น จึงกลายเป็นตำบลมุจลินท์ ทำให้วัดได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดมุจลิน” โดยทางวัดนั้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาประมาณปี พ.ศ. 2390 ครับ ความน่าสนใจภายในวัด ไฮไลท์ที่น่าสนใจมาก ๆ ของที่นี่ก็คือ การสร้างพญานาคที่มีความสวยงามและแปลกตา ซึ่งแตกต่างจากวัดอื่น ๆ อย่างชัดเจน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของพญามุจลินท์นาคราช นอกจากนี้ยังมีบันไดนาคบาศที่เชื่อกันว่าผู้ที่เดินผ่านจะได้รับโชคลาภและความมั่งคั่ง มีเหลือกินเหลือใช้

ปากช่องเขาใหญ่เป็นสถานที่เที่ยวธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งกิน เที่ยว ช็อปอย่างครบครัน ซึ่ง วัดดังปากช่อง นั้นก็ถือว่าน่าเที่ยวด้วยเช่นกัน เพราะการได้เข้าวัดทำบุญนั้นเป็นสิ่งที่สายเที่ยวหลาย ๆ คนต่างก็ชื่นชอบครับ วันนี้เราเลยจะพาไปปักหมุดกับ 5 วัดสวยโคราช ที่สายบุญและสายมูนั้นไม่ควรพลาด แต่จะมีวัดไหนบ้าง ตามเราไปดูกันได้เลยครับ ไหว้ขอพรพระ 5 วัดดังปากช่อง 1. วัดป่าภูหายหลง วัดป่าภูหายหลง เป็นวัดที่มีความงดงามตั้งอยู่บนยอดเขา ในช่วงเช้าตรู่ วัดจะถูกห้อมล้อมด้วยสายหมอกที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มีหมอกหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ทำให้บรรยากาศดูงดงามอย่างยิ่ง วัดนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2482 ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นที่พักสงฆ์ และในอดีตเคยมีชื่อว่า วัดภูเขากอย ในปี พ.ศ. 2542 พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล (ครูจารย์สุ่ม) ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดป่าภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาสมาพำนักที่วัดนี้ ซึ่งในขณะนั้นมีเพียงกุฏิและศาลาเล็กๆ ไม่มีพระประจำวัดมานานแล้ว ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันอาราธนาพระอาจารย์ประพันธ์ให้เป็นหลักศาสนาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านจากทั้ง 3 หมู่บ้าน พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล จึงได้ตั้งชื่อวัดใหม่ว่า วัดป่าภูหายหลง เพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งมีความหมายว่า