Author name: admin

น้ำตกกระทิง จันทบุรี เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา ป่าไม้ หรือน้ำตก ที่นี่มีให้คุณได้สัมผัสครบทุกอย่าง! แต่เมื่อพูดถึงน้ำตกในจันทบุรี หลายคนมักจะนึกถึง น้ำตกพลิ้ว แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจ น้ำตกกะทิง น้ำตกที่ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ความงามของที่นี่ไม่แพ้น้ำตกพลิ้วเลยนะ ตามมาชมกันเถอะ น้ำตกกระทิง จังหวัดจันทบุรี ทำความรู้จักกับสถานที่ น้ำตกกะทิง เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก โดยส่วนบนจะเป็นผาน้ำตกที่เปิดโล่ง ทำให้สามารถมองเห็นน้ำตกจากระยะไกลบนเขาได้ แหล่งน้ำต้นกำเนิดมาจากยอดเขาคิชฌกูฏ และทั้งน้ำตกมีทั้งหมด 13 ชั้น ไฮไลท์ที่สวยงามที่สุดของน้ำตกกะทิงจะอยู่ที่ชั้น 8 และชั้น 9 แต่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้เดินชมได้เพียงถึงชั้น 8 เท่านั้น ระยะทางระหว่างแต่ละชั้นไม่ไกลเกินไป สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายเลยครับ ความน่าสนใจ ในแต่ละชั้นของน้ำตกมีความงดงามที่แตกต่างกัน สำหรับชั้นแรกนั้น ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการเพียง 100 เมตร และใกล้กับพื้นที่บ้านพักของอุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำในทุกชั้นได้ตามความสะดวกครับ ในแอ่งน้ำตกที่มีทั้งหินและทราย น้ำมีความใสจนสามารถมองเห็นปลาพลวงที่อาศัยอยู่ในนั้นได้อย่างชัดเจน ชั้นที่คนมักจะไปเล่นน้ำกันมากที่สุดคือชั้นที่ 3 เนื่องจากอยู่ใกล้กับที่ทำการ ไม่ต้องปีนเขาให้เหนื่อย น้ำไม่แรง และมีแอ่งน้ำให้สนุกสนาน เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง […]

ถนนเล็กๆ ที่ชาวเมืองตากเรียกว่า “ตรอกบ้านจีน” ตั้งอยู่ในเขตเมืองตาก บนถนนตากสิน ใกล้กับสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เป็นชุมชนการค้าขายที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต แม้ว่าในปัจจุบันบรรยากาศความคึกคักของการค้าอาจลดน้อยลงไป แต่เรายังคงเห็นร่องรอยของความเจริญในอดีตได้ชัดเจน ผ่านบ้านเรือนเก่าที่รักษาเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี ทำให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสชื่นชมท่ามกลางวิถีชีวิตที่เรียบง่าย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ตรอกบ้านจีน จังหวัดตาก ทำความรู้จักกับสถานที่ เรามาทำความรู้จักกับ ตอกบ้านจีน กันก่อนว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง ชุมชนนี้ตั้งอยู่ริมถนนตากสิน ตำบลระแหง ข้างแม่น้ำปิง ทำให้ในอดีตกลายเป็นศูนย์กลางการค้าขายของเมืองตากตั้งแต่ช่วงปลายรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีบริษัทค้าไม้ที่เชื่อมกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ รวมถึงห้างกิมเซ่งหลี่ ที่ก่อตั้งโดย อากรเต็ง หรือ จีนเต็ง ร่วมกับพ่อค้าชาวจีนอีกสองคนคือ จีนบุญเย็น และ จีนทองอยู่ การก่อตั้งกิจการเหล่านี้ทำให้การค้าขายในชุมชน เริ่มเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนมีความรุ่งเรืองอย่างสูงในช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ จนกระทั่งเมื่อ สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2482 ที่นี่ประสบความเสียหายอย่างรุนแรงจากผลกระทบของสงคราม อาคารบ้านเรือนถูกทำลาย ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยสงครามไปค้าขายที่เมืองอื่นแทน ส่งผลให้ความรุ่งเรืองของสถานที่นี้ได้สิ้นสุดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความน่าสนใจ ปัจจุบัน ตอกบ้านจีนได้กลายเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ

ปราสาทบ้านไพล เป็นปราสาทหินในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16 ถึง 17 ซึ่งเป็นยุคที่อาณาจักรขอมมีความเจริญรุ่งเรืองและเผยแพร่วัฒนธรรมรวมถึงศิลปะไปยังพื้นที่ใกล้เคียงครับ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานหลายศตวรรษ แต่ทว่าร่องรอยของอารยธรรมโบราณยังคงมีให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้ และนี่คือ 1 ในปราสาทหินทั่วประเทศไทย แหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญซึ่งควรค่าแก่การไปสัมผัสความงดงามของศิลปะขอมโบราณและเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเป็นมา ปราสาทบ้านไพล จังหวัดสุรินทร์ ทำความรู้จักกับสถานที่ ปราสาทบ้านไพร ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยกรมศิลปากรได้สร้างรั้วล้อมรอบเขตโบราณสถานนี้ไว้ บริเวณรอบๆ มีถนนและบ้านเรือนเรียงรายอยู่ ใกล้ๆ ทางทิศตะวันออกมีอาคารเสนาสนะของวัด ส่วนทางทิศตะวันตกมีหมู่บ้านที่มีพื้นที่โดยรอบ ปราสาทแห่งนี้เคยรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงระหว่างศาสนากับชุมชน ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับนักศึกษาและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน ปราสาทบ้านไพร ยังคงมีหลักฐานทางโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ ทำให้เกิดความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนบ้านไพลในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวของปราสาทบ้านไพรจึงถูกนำเสนอผ่านประวัติความเชื่อและหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เข้าใจวิถีชีวิตของชุมชนบ้านปราสาทในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น ความน่าสนใจ ของ ปราสาทบ้านไพร ลักษณะทางสถาปัตยกรรม ปราสาทบ้านไพร ประกอบด้วยปราสาท 3 หลัง ที่เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก อยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน มีบันไดขึ้นด้านหน้า 3 ทาง พื้นที่รอบๆ ถูกล้อมด้วยคูนํ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม โดยมีรายละเอียดดังนี้: ปราสาทหลัก (หลังกลาง) ก่อด้วยอิฐ โดยมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมขนาดประมาณ

วัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ – หลายคนที่เคยคิดว่า อุตรดิตถ์ เป็นเพียงเมืองที่ต้องผ่านไป ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะจังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจอีกมากมาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในอุตรดิตถ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำบุญ นั่นก็คือ วัดพระผาง หรือ วัดพระผางสวางคบุรีมุนีนาถ ซึ่งเป็นวัดโบราณที่มีอายเกือบ 900 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย และยังเป็นวัดที่มีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์อีกด้วยครับ วัดพระฝาง จังหวัดอุตรดิตถ์ ประวัติความเป็นมาของวัด วัดพระผาง หรือชื่อเต็มว่า วัดพระผางสวางคบุรีมุนีนาถ เป็นวัดโบราณที่สวยงามในจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ถูกก่อสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 1700 ตามที่ปรากฏในทะเบียนวัด และชื่อของวัดได้ถูกบันทึกในศิลาจารึกหลักที่ 2 ซึ่งได้กล่าวถึงพระมหาเถรศรีศรัทธา ทำให้มีความเชื่อว่าท่านเป็นหลานของพ่อขุนผาเมือง ก่อนที่ท่านจะเริ่มการเดินทางไปแสวงบุญที่กรุงลังกา ในช่วงเวลาของพญาเลอไท ท่านได้แวะมากราบนมัสการพระธาตุที่วัดพระผาง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองแพร่ ลำพูน และยังได้ลงเรือที่อ่าวเมาะตะมะเพื่อเดินทางไปยังลังกาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึง วัดพระผาง ซึ่งสะท้อนถึงความศรัทธาของชาวสยามที่มีต่อ พระทันตธาตุเมืองพระฝาง ข้อมูลนี้ปรากฏในจดหมายเหตุของลา ลูแบร์ โดยอัครราชทูตพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่ได้เข้ามาทูลพระราชสาส์นในช่วงปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปี พ.ศ. 2230 ซึ่งช่วยให้เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าพระบรมธาตุเมืองฝางมีความสำคัญในยุคสมัยนั้นอย่างแน่นอนครับ วัดพระผางสวางคบุรีมุนีนาถ

หากคุณมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ อีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไม่พลาดคือ วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด นั่นคือ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง นั่นเองครับ ใครที่อยากได้รายละเอียด วัดดังอุตรดิตถ์ แห่งนี้ลองตามเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำความรู้จักกับสถานที่ วัดพระแท่นศิลาอาส เป็นสถานที่ทางศาสนาโบราณที่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับผู้สร้างหรือช่วงเวลาที่สร้างขึ้น ในศิลาจารึกสมัยกรุงสุโขทัยก็ไม่พบข้อความที่กล่าวถึงวัดนี้ แต่เริ่มมีการบันทึกในหนังสือพระราชพงศาวดารในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งพระองค์ได้เสด็จไปนมัสการวัดพระแท่นศิลาอาสเมื่อปี พ.ศ. 2283 นั่นแสดงให้เห็นว่าวัดนี้มีความสำคัญและเป็นที่เคารพก่อนหน้านั้นแล้ว การเคารพและสักการะวัดพระแท่นศิลาอาสได้แพร่หลายไปยังคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง และทางราชการได้เลือกวัดนี้ไปประดิษฐานในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความศรัทธาและความสำคัญของ วัดพระแท่นศิลาอาส อย่างชัดเจน ความน่าสนใจ ของ วัดพระแท่นศิลาอาส พระแท่นศิลาอาสน์ พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์ที่สำคัญ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง ซึ่งมีความเชื่อกันมายาวนานว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นนี้เพื่อเจริญภาวนา โดยเฉพาะในเวลาที่ตรัสรู้แล้วเพื่อโปรดสัตว์ นี่แสดงให้เห็นว่าพระแท่นศิลาอาสน์มีประวัติความเป็นมายาวนานในพระพุทธศาสนา พระแท่นทำจากศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต และสูง 3 ฟุต ที่ฐานของพระแท่นมีการประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน ยังมีพระมณฑปในศิลปะเชียงแสนที่ครอบอยู่เหนือพระแท่นอีกด้วย งานเทศกาลนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ ประเพณีการทำบุญไหว้พระแท่นศิลาอาสน์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ชัยนาท ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อไหว้พระและวัดสวยงามในภาคกลาง ซึ่งที่นี่มีวัดที่หลากหลายมากมาย วัดธรรมามูลวรวิหาร เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญและอยู่คู่บ้านคู่เมืองชัยนาทอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมีความงดงามทางศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวอีกด้วย หากใครสนใจไปไหว้พระที่วัดสวยในชัยนาทแห่งนี้ สามารถติดตามเราไปได้เลย วัดธรรมามูลวรวิหาร จังหวัดชัยนาท ประวัติความเป็นมาของวัด วัดธรรมามูล วรวิหาร หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า วัดธรรมามูล เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชุมชนและเมืองชัยนาท ตั้งอยู่ในตำบลธรรมามูล อำเภอเมืองชัยนาท วัดนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยตั้งอยู่บนไหล่เขาธรรมามูล ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าเป็นวัดที่มีอายุมากและมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างมาก ความน่าสนใจภายในวัด หลวงพ่อธรรมจักร ส่วนภายในวิหารจะเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อธรรมจักร” ซึ่งปีที่สร้างไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน โดยเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติที่ตั้งอยู่บนฐานรูปดอกบัว มีความงดงามด้วยศิลปะแบบประยุกต์จากเชียงแสนตอนปลายจนถึงสุโขทัยตอนต้น และยังผสมผสานกับความเป็นสมัยอยุธยาอีกด้วย โดยมีรูปพระธรรมจักรปรากฏอยู่กลางฝ่าพระหัตถ์ข้างขวา สันนิษฐานว่าความคิดนี้เกิดจากช่างในยุคนั้นที่ต้องการให้พระพุทธรูปองค์นี้มีเครื่องหมายแห่งมหาปุริสลักษณะนั่นเอง สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ วัดธรรมามูล วรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในชัยนาท ยังเป็นสถานที่ที่ในหลวงรัชกาลที่ 4 และในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จพระประพาส รวมถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยครับ อีกทั้งพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ยังได้เสด็จมานมัสการหลวงพ่อธรรมจักรที่วัดนี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีความเชื่อว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่หน้าวัดนั้น ถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกนำไปใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาอีกด้วย วัดธรรมามูลยังคงสืบทอดประเพณีนมัสการและปิดทองหลวงพ่อธรรมจักรเป็นประจำทุกปี โดยงานประเพณีนี้จัดขึ้นปีละสองครั้ง

วันนี้เราจะพาไปที่ชัยนาท จังหวัดขึ้นชื่อเสียงด้านการไหว้พระ โดยจะไปกันที่ วัดโฆสิตาราม นั่นเองครับ ที่นี่ผู้คนมักจะมาสักการะ หลวงพ่อกรวย ชุตินฺธโร พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในภาคกลาง ผู้มีชื่อเสียงในด้านวิทยาคม พร้อมทั้งเราจะได้ทำความรู้จักกับวัดที่มีชื่อเสียงในชัยนาทแห่งนี้กันอย่างลึกซึ้งครับ วัดโฆสิตาราม (หลวงพ่อกรวย) จังหวัดชัยนาท วัดโฆสิตาราม หรือที่ชาวท้องถิ่นเรียกว่า วัดบ้านแค เป็นวัดที่อยู่ในความดูแลของคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบ้านแค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท โดยวัดนี้ห่างจากอำเภอสรรคบุรีประมาณ 15 กิโลเมตรครับ ประวัติและความเป็นมา วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี แต่เดิมเคยเป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่า โดยมีชื่อว่า วัดขวิด ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากทำเลที่ตั้งอยู่บนที่ดอนและมีต้นมะขวิดขึ้นอยู่ในบริเวณนั้น ก่อนที่จะมี หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส (เจ้าอาวาสลำดับที่ 6 ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2491-2522) และได้ทำการเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ดังของภาคกลาง โดยเฉพาะในด้านวิทยาคมครับ แต่เดิมท่านมีชื่อว่า กวย ปั้นสน ท่านเกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่หลีกหนีจากความยุ่งเหยิงในเมืองใหญ่ และต้องการสัมผัสความสงบในจิตใจ วัดพระธาตุหมื่น (หลวงปู่ศิลา) คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเลยครับ ที่นี่มีพลังแห่งศรัทธาและธรรมชาติที่สวยงามรอให้คุณได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ที่วัดนี้มีหลวงปู่ศิลา พระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพนับถือจากชุมชนอย่างสูง และยังมีพระธาตุหมื่นหินที่งดงามให้ได้กราบไหว้ด้วยครับ หากคุณอยากรู้ว่าวัดในกาฬสินธุ์แห่งนี้มีความสวยงามมากเพียงใด ลองตามเรามาไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับครับ วัดพระธาตุหมื่นหิน จังหวัดกาฬสินธุ์ ประวัติความเป็นมาของวัด วัดพระธาตหมื่นหิน เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกศรัทธาและความสงบที่ห่างไกลจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ตัววัดตั้งอยู่ในตำบลที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง คุณสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปยังที่นั่นซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เส้นทางส่วนใหญ่เป็นถนนชนบทที่คดเคี้ยวแต่มีทิวทัศน์ที่งดงามตลอดเส้นทาง คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่เขียวขจีและภูเขาที่โอบล้อม ทำให้การเดินทางกลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่น่าจดจำ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและบรรยากาศที่เย็นสบาย ภายในวัดมีพระธาตุที่เป็นศูนย์รวมของศรัทธา และเป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่ศิลา ซึ่งชาวบ้านให้ความเคารพนับถืออย่างสูง ความน่าสนใจภายในวัด พระธาตุหมื่นหิน ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดนี้ ด้วยรูปแบบที่งดงามและไม่ซ้ำใคร การประดับด้วยหินหลายประเภทที่จัดเรียงอย่างประณีต ทำให้พระธาตุมีความงดงามและสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่า การได้มาสักการะพระธาตุนี้จะนำพาความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต ท้าวเวสองค์ดำ ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้มีอายุประมาณ 50 ปี ซึ่งลูกศิษย์ได้มอบให้หลวงปู่ศิลา โดยมีลักษณะเป็นสีดำทอง หล่อด้วยโลหะ และหลวงปู่ได้ตั้งชื่อว่า “ปู่เวสองค์ดำ” ที่วัดหลวงปู่ศิลา ชาวบ้านที่เคยมากราบไหว้หลายคนได้เดินทางกลับมาทำการแก้บน เช่น หัวหมู 500 หัว ไก่ต้ม 1,000 ตัว ไข่ไก่

วันนี้เราจะมาพาสายมูทุกคนไปเที่ยวและไหว้พระที่ วัดสว่างหัวนาคำ จังหวัดกาฬสินธุ์กันสักหน่อยครับ ที่นี่มีความงดงามและเสน่ห์ในด้านสถาปัตยกรรมอย่างมาก รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่เราสามารถไปกราบไหว้บูชาได้อย่างเต็มที่ สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จักวัดนี้มาก่อน เราจะพาไปทำความรู้จักกัน เพื่อให้เป็นอีกหนึ่ง วัดสวยกาฬสินธุ์ ที่น่าไปเที่ยวครับ วัดสว่างหัวนาคำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ประวัติความเป็นมา วัดสว่างหัวนานคำ นั้นอยู่ภายในตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเรียกกันว่า “วัดบ้าน” หรือ “วัดใหญ่” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในวัดเก่าแก่ ซึ่งมีความสำคัญของหมู่บ้านเลยครับ วัดนี้ถูกสร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2272 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2342 ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 วัดได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่เพื่อแทนอุโบสถหลังเก่าที่ทรุดโทรม โดยการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2561 นอกจากนี้ ยังมีการขอพระราชทานขยายเขตวิสุงคามสีมาเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2562 อีกด้วย ความน่าสนใจภายในวัด พระพุทธวิชัยญาณ พระพุทธวิชัยญาณ เป็นนพระพุทธรูปที่มีความสำคัญกับ วัดสว่างหัวนานคำ อย่างมากเลยครับ โดยชาวบ้านเรียกกันแต่เดิมว่า “หลวงปู่ใหญ่” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัดมมแต่ช้านาน ซึ่งเป็นปางมารวิชัย ลักษณะนั่งขัดสมาธิราบ โดยจะเป็นเนื้อหินทรายโบราณ ในแบบศิลปะล้านช้าง และยังมีลักษณะสวยงามถูกต้องตามพุทธศิลป์

ใคร ๆ ก็ปรารถนาที่จะมีโชคดี มีเงินทองหลั่งไหลเข้ามาและสุขภาพที่แข็งแรง ในช่วงนี้มีเมืองหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านที่คนไทยนิยมเดินทางไปกราบไหว้พระพม่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพร ที่นั่นคือเมืองย่างกุ้งในประเทศพม่า ดังนั้นเราจึงไม่รอช้า มานำเสนอการแนะนำวัดต่าง ๆ ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกราบไหว้ขอพรจากพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เปิดพิกัด 5 ที่เที่ยวไหว้พระพม่า เมืองย่างกุ้ง 1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองย่างกุ้งในประเทศพม่า คือ “พระมหาเจดีย์ชเวดากอง” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง พระมหาเจดีย์ชเวดากองมีความสูงถึง 326 ฟุต และกว้าง 1,355 ฟุต โดยมีทองคำหนักถึง 1,100 กิโลกรัมหุ้มอยู่ ภายในเก็บพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ถึง 8 เส้น และที่ยอดเจดีย์ประดับด้วยเพชร 5,448 เม็ด นอกจากนี้ พระมหาเจดีย์ชเวดากองยังถือเป็นพระธาตุประจำปีของผู้เกิดปีมะเมีย โดยรอบองค์เจดีย์มีพระประจำวันเกิดทั้ง 8 ทิศ รวมทั้งหมด 8 องค์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตนเองได้ และยังสามารถกราบไว้ขอพรที่ลานอธิษฐาน เพื่อเสริมสร้างบารมีและนำโชคลาภเข้าชีวิต โดยจุดนี้ถือเป็นสถานที่ที่พระเจ้าบุเรงนองเคยมาอธิษฐานก่อนออกไปทำศึกด้วยเช่นกัน 2. เจดีย์โบตาทาวน์ หากใครต้องการขอพรให้ได้ตามที่ปรารถนาอย่างรวดเร็ว ควรไปที่เจดีย์โบตาทาวน์เพื่อสักการะเทพทันใจหรือนัตโบโบยี แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เราขอแนะนำให้ไปกระซิบบอกความปรารถนาของคุณข้างหูเทพกระซิบหรือเมี๊ยะนานหน่วยต่อด้วย